วันนี้ (11 กันยายน) ที่รัฐสภา ธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวก่อนการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า วันนี้ได้มีการเตรียมการสำหรับการอภิปรายครั้งนี้ด้วย เนื่องจากพรรครวมไทยสร้างชาติมี สส. ใหม่ และ สส. อาวุโสหลายคน ซึ่งเห็นว่านโยบายหลายอย่างมีความครอบคลุม เป็นนโยบายที่กว้างและไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก นโยบายที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในนโยบายหลักอยู่แล้ว ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้นก็อยู่ในนโยบายเช่นเดียวกัน ตนเองจึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่พิเศษ ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่านโยบายหลักมีอะไรบ้าง แม้บางนโยบายจะได้หาเสียงไว้ แต่ด้วยงบประมาณและระยะเวลาต่างๆ จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติจะดูนโยบายด้านใดเป็นพิเศษ ธนกรกล่าวว่า ในพรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการหาเงินเข้าประเทศในเรื่องของการท่องเที่ยว, เขตเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) หรือนโยบายหลักของรัฐบาลที่แล้วที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการไว้ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เราได้ขอให้รัฐบาลนี้ช่วยสานงานต่อ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านได้มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่ตรงปก นโยบายไม่ตรงกับที่หาเสียงไว้ ธนกรกล่าวว่า คงไม่ใช่แบบนั้น เหมือนที่ตนเองได้พูดไว้ว่านโยบายในช่วงหาเสียงมีหลายนโยบาย แต่ด้วยระยะเวลาและงบประมาณนั้นต้องให้รัฐบาลทำนโยบายหลักก่อน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน การฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต้องทำก่อน อย่าเพิ่งตีตนก่อนไข้ เพราะหลายนโยบายยังไม่ได้มีการทำ ฉะนั้นจึงคิดว่าการอภิปรายในวันนี้คงไม่มีเรื่องพิเศษอะไร เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ทำ ซึ่งเป็นเพียงนโยบายที่ชี้แจงว่าจะทำ จึงไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในความคิดเห็นของตนเองนั้นมองว่าวันนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตั้งองครักษ์ไว้สำหรับปกป้องรัฐมนตรีหรือไม่ ธนกรกล่าวว่า ไม่มี แต่หากเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนเองเข้าใจว่าอาจจะต้องมี หากมีการอภิปรายที่ไม่สมเหตุสมผลจะได้มีการชี้แจงไป แต่ในวันนี้เป็นการอภิปรายเรื่องนโยบายจึงไม่มีความจำเป็นต้องมี
“ผมคิดว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยและการนำของพรรคฝ่ายค้านมีความคุ้นเคยกันดี ซึ่งตนเองมีความเข้าใจว่าจะเป็นไปด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัยและเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก” ธนกรกล่าว