หลังการรอคอยมาสักพัก ในที่สุด ลิโอเนล เมสซี ก็สามารถทำประตูแรกในสีเสื้อปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้แล้ว และเป็นการยิงใส่ทีมของเจ้านายเก่าอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ด้วย
โดยซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 34 ปี ทำประตูที่ 2 ของเกม ในนาทีที่ 74 กับลูกยิงตามสไตล์ด้วยการลากตัดจากขวาเข้ามากลางประตูก่อนทำชิ่งกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ และยิงเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ส่วนประตูแรกของเกมมาจาก อิดริสซา กานา เกย์ ที่ยิงได้ตั้งแต่นาทีที่ 8 ทำให้เปแอสเชชนะไป 2-0 ในเกมนี้ นำจ่าฝูงของกลุ่ม A
สำหรับลิเวอร์พูลที่พลาดเสมอกับเบรนท์ฟอร์ดมาในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์ มากู้หน้ากลับได้ด้วยการบุกไปถล่มเอฟซี ปอร์โต ทีมที่โค้ช แซร์โจ คอนไซเซา ผู้ยืนยันว่า ‘รู้จุดอ่อนของลิเวอร์พูล’ ขาดลอยถึง 5-1 ในเกมของกลุ่ม B ‘กลุ่มแห่งความตาย’ โดย 3 ประสานแนวรุกชุดดั้งเดิม โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน ยิงกันถ้วนหน้า แต่คนที่โดดเด่นและได้รับการชื่นชมมากที่สุดคือ เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ดาวโรจน์ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี วันนี้ทำไป 3 แอสซิสต์คนเดียว
ที่ช็อกวงการคือเกมระหว่างเรอัล มาดริด อดีตแชมป์ 13 สมัย ที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของเอฟซี เชอริฟฟ์ ทีมจากมอลโดวา ซึ่งก่อนเกมใครก็เชื่อว่า ‘ราชันชุดขาว’ น่าจะเข้าป้ายสบาย แต่ปรากฏว่าเจอทีเด็ดของทีมเยือนที่ยิงประตูชัยในนาทีที่ 90 จาก เซบาสเตียน ธิลล์ ทำให้ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ แพ้คาบ้าน 1-2 ส่วนทีมเยือนคว้าชัยชนะเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกันแล้ว นำกลุ่ม D แบบเซอร์ไพรส์
ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ
- ไลป์ซิก 1-2 คลับ บรูกก์ (กลุ่ม A)
- เอซี มิลาน 1-2 แอตเลติโก มาดริด (กลุ่ม B)
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-0 สปอร์ติง ลิสบอน (กลุ่ม C)
- อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 2-0 เบซิคตัส (กลุ่ม C)
- ชัคตาร์ โดเนตส์ค 0-0 อินเตอร์ มิลาน (กลุ่ม D)