วันนี้ (10 ธันวาคม) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุม รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2568
จากนั้นในช่วงการหารือ ภราดร ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันนี้จะมีการยื่นญัตติด่วนเพื่อให้รัฐสภามีมติยื่นไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการทำประชามติครั้งที่ 1 เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอการลงมติในวาระที่ 3 ซึ่งหลังจากการพิจารณาวาระที่ 2 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขอให้เพื่อนสมาชิกร่วมกันพิจารณายตญัตด่วน เพื่อให้รัฐบาลได้ทำคำถามประชามติครั้งที่ 1 เสียก่อน
โดยหลังจากลงมติในวาระที่ 3 ในสิ้นเดือนนี้หรือต้นเดือนมกราคม 2569 ประธานรัฐสภาอาจจะให้สภาฯ พิจารณาเรื่องคำถาม เพื่อส่งให้รัฐบาลทำคำถามประชามติที่ 2 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสามารถทำได้ ตนเองได้มีการเสนอญัตติต่อรัฐสภาไว้แล้ว รอบรรจุระเบียบวาระ หากไม่ขัดข้องขอให้บรรจุระเบียบวาระและพิจารณาในญัตติด่วนหลังจากที่พิจารณาวาระที่ 2 เสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ด้วย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อหารือของภราดรตรงกับข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทยที่เรียกร้องให้สร้างหลักประกันให้กับสังคมไทยด้วยกัน ให้รัฐบาลส่งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ไปยัง กกต.โดยทันทีเพื่อยืนยันว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สะดุดติดขัดหรือเดินหน้า สุดท้ายในวันที่มีการเลือกตั้งจะต้องมีคำถามประชามติคำถามที่ 1 ถามประชาชนว่าต้องการให้มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หากในวันที่มีการลงมติประชาชนเห็นชอบ สิ่งที่ประชาชนจะได้คือหลักประกันว่า หลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ มีสภาฯ ชุดใหม่แล้ว กระบวนการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องเกิดขึ้นเพราะมีประชามติของประชาชนเป็นหลังพิง
สำหรับข้อเสนอของภราดรให้มีการพิจารณาญัตติด่วนหลังจบวาระที่ 2 เพื่อส่งคำถามที่ 1 ไปยังรัฐบาล พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้อง แต่เป็นการทำงานที่เกินกว่าความจำเป็นหรือไม่ เพราะอำนาจของ ครม.มีอยู่แล้วในการส่งคำถามประชามติไม่ต้องมาถามสภาฯ สามารถส่งคำถามที่ 1 ควรจะมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ที่ กกต.ได้เลย
“การประชุม ครม. เมื่อวานนี้ (9 ธันวาคม) สามารถดำเนินการได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ จะมาผลักภาระให้กับรัฐสภา ผมไม่ติดขัด แต่กฎหมายก็เปิดช่องอยู่แล้ว พ.ร.บ.ประชามติ ให้อำนาจกับ ครม.และรัฐสภา” จุลพันธ์กล่าว
ต่อมาภราดรกล่าวอีกว่า เรื่องการทำประชามติครั้งที่ 1 เห็นตรงกันกับจุลพันธ์ และนายกรัฐมนตรีว่า ครม. สามารถตั้งคำถามประชามติครั้งที่ 1 ได้เพียงแต่สอบถามไปยังกฤษฎีกา ซึ่งตอบกลับมายัง ครม.และจะมีหนังสือส่งตามมาให้ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ กฤษฎีกาในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลทักท้วงว่าอาจจะขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แม้ว่ากฎหมายประชามติจะอนุญาตให้ ครม.ทำได้ แต่กฤษฎีกาทักท้วงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามคำวินิจฉัยของศาลให้เริ่มต้นจากรัฐสภาก็ควรให้รัฐสภาเสนอคำถามต่อ ครม.เพื่อให้ดำเนินการต่อไป ครม.ต้องทำให้เกิดความรอบคอบถูกต้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และตามข้อเสนอแนะของกฤษฎีกา


