หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (Transportation Security Administration – TSA) ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจของผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบเศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลก โดยระบุว่าวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้นมีส่วนทำให้คนเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารลดลงมากถึง 96%
TSA ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว หลังพบว่ามีจำนวนผู้โดยสารที่ผ่านจุดเช็กอินที่สนามบินเมื่อวันพุธที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาเพียง 95,000 รายเท่านั้น ลดลงจากวันเดียวกันของปี 2019 ที่เคยมีผู้โดยสารผ่านจุดคัดกรองที่สนามบินมากกว่า 2.3 ล้านราย และยังเชื่ออีกด้วยว่าตัวเลขดังกล่าวอาจจะเป็นการปรับลดลงแรงที่สุดในรอบ 10 ปี
ขณะที่จากการเปิดเผยของสายการบินสำหรับอเมริกา (A4A) หน่วยงานที่ควบคุมดูแลสายการบินในประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าโรคระบาดโควิด-19 ยังมีส่วนที่ทำให้สายการบินต้องลดกำลังและขีดจำกัดในการให้บริการของพวกเขาลงจากช่วงเวลาปกติราว 71%
เพราะปัจจุบันมีรายงานว่าโดยเฉลี่ยในทุกๆ 10 ที่นั่งของเที่ยวบินในสหรัฐฯ จะมีเพียง 1 ที่นั่งที่ได้รับการจับจอง ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศ เฉลี่ยในทุกๆ 5 ที่นั่งจะมีแค่ 1 ที่นั่งที่ได้รับการจับจองเพื่อโดยสารเช่นกัน และมีเครื่องบินที่ต้องจอดทิ้งอยู่กับที่มากถึงราว 30% ของจำนวนเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ทั้งหมด
แถมในช่วงต้นปีที่ผ่านมา A4A ยังบอกอีกด้วยว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะมีเที่ยวบินโดยสารเชิงพาณิชย์ให้บริการต่อวันที่ประมาณ 111,000 ไฟลต์ ขณะที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โควิด-19 ทำให้ตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 31,000 ไฟลต์ต่อวันเท่านั้น
ด้านสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA ประเมินว่าสายการบินสหรัฐฯ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 2 นี้คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.96 ล้านล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเสียไปกับการทำเรื่องชดเชยคืนเงินให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางในช่วงเวลานี้ได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: