‘ราคาน้ำมันปาล์ม’ พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม รวมถึงน้ำมันสำหรับปรุงอาหารทั้งหมดจนกว่าวิกฤตขาดแคลนสินค้าในประเทศจะได้รับการแก้ไข ซึ่งการที่ราคาน้ำมันปาล์มปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบไปถึงซัพพลายเชนอาหารทั่วโลก ทั้งปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร และปัญหาเงินเฟ้อที่น่าจะเพิ่มขึ้นอีกระลอกจากต้นทุนน้ำมันปาล์มพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมากถึง 6% ที่ 6,738 ริงกิต (1,550 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตันในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
‘หุ้นไทย’ เปิดร่วง 13 จุด ตามตลาดโลก กังวล Fed ขึ้นดอกเบี้ยแรง
- หุ้น ‘น้ำมันปาล์ม’ บวกยกแผง! หลังอินโดนีเซียระงับส่งออกจนกว่าจะแก้ปัญหาขาดแคลนในประเทศได้สำเร็จ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 เมษายน) รัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า จะเริ่มหยุดการขนส่งตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน และดำเนินการเช่นนี้ต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมรับว่าวิกฤตขาดแคลนสินค้าภายในประเทศได้รับการแก้ไขแล้ว
การประกาศงดส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มหลักของโลก คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ทำให้เกิดการกักตุนพืชผลทั่วโลก ซึ่งจุดเริ่มต้นของภาวะการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นในยูเครน ขณะที่รัฐบาลพยายามปกป้องแหล่งทรัพยากรด้านอาหารของตนเองด้วยการผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น การดำเนินการเช่นนี้ได้กระตุ้นอัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารทั่วโลกที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงต่อวิกฤตความหิวโหย
Avtar Sandu ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสินค้าโภคภัณฑ์ของ Phillip Nova กล่าวว่า การหยุดจัดส่งน้ำมันสำหรับประกอบอาหารและวัตถุดิบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่เค้กไปจนถึงเครื่องสำอาง อาจเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ผลิตอาหารและบรรจุภัณฑ์ทั่วโลก
“การเคลื่อนไหวของอินโดนีเซียครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน้ำมันที่บริโภคได้อื่นๆ เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน กำลังประสบปัญหาอันเนื่องมาจากความรุนแรงใน Black Sea”
แม้การจำกัดอุปทานและราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารของประเทศร่ำรวยอย่างสหรัฐฯ เช่น น้ำสลัดและมายองเนส เผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลง แต่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างอินเดียก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากอินเดียต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นทางเลือกที่ถูกกว่าสำหรับน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันคาโนลาที่มีราคาแพงกว่า
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-04-25/palm-oil-jumps-almost-5-as-top-shipper-indonesia-to-ban-exports?sref=CVqPBMVg
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/indonesia-ban-palm-oil-exports-shore-up-supply-soyoil-futures-surge-2022-04-22/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP