วานนี้ (31 สิงหาคม) สถานการณ์ความเป็นอยู่ของประชาชนในปากีสถานอยู่ในภาวะวิกฤตหนัก หลังเผชิญน้ำท่วมใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยล่าสุดนั้น แพทย์ได้ออกมาเตือนว่าปากีสถานมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับโรคระบาดใหญ่ที่มากับน้ำ เพราะตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยโรคท้องร่วงและมาลาเรียเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงทำให้ประชาชนหลายคนไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้
เจ้าหน้าที่กังวลว่า เชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำจะยิ่งทำให้ภาคสาธารณสุขของประเทศตึงเครียดมากกว่าเดิม โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุ ปัจจุบันมีคลินิกกว่า 880 แห่งในปากีสถานที่พังเสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่ทางองค์การได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแล้ว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ WHO ยังได้ประสานงานกับรัฐบาลปากีสถานเพื่อรับมือกับโรคท้องร่วง อหิวาตกโรค และโรคอื่นๆ ที่กำลังระบาด รวมถึงหาวิธีการจัดการกับโรคมาลาเรียและไข้เลือดออก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเลวร้ายลงกว่าเดิมจากเหตุที่มีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
อารีฟ จับบาร์ ข่าน ผู้อำนวยการองค์กร WaterAid Pakistan ได้เดินทางเยือนแคว้นสินธ์ ซึ่งเป็นแคว้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากอุทกภัยครั้งนี้ โดยกล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคท้องร่วงและโรคบิดมากขึ้น
“ขณะนี้ครอบครัวชาวปากีสถานอาศัยอยู่ริมคลองและแม่น้ำที่เอ่อล้น ภายใต้เพิงที่สร้างจากไม้ไผ่และพลาสติก พวกเขาต้องใช้น้ำท่วมดื่มกินเพราะไม่มีทางเลือกอื่น ซึ่งในที่สุดอาจส่งผลให้เกิดโรคระบาดในวงกว้าง ซึ่งเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งความช่วยเหลือให้ถึงมือพวกเขา” ข่านกล่าว
ดร.อัซรา ฟาซาล เปชูโฮ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของแคว้นสินธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดตั้งแคมป์หน่วยแพทย์ 4,210 แห่ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังป่วยด้วยโรคผิวหนังและโรคติดเชื้อที่เกิดจากน้ำ ขณะแพทย์จากแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา กล่าวว่าในช่วงแรกนั้นผู้คนมาพบแพทย์เพราะได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บจากน้ำท่วม แต่ในช่วงหลังผู้ป่วยส่วนใหญ่กลับมาด้วยอาการท้องร่วงถี่ขึ้นมาก
นอกจากนี้ กลุ่มคนที่น่าห่วงอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มสตรีมีครรภ์และผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน โดยกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ประมาณการว่า มีสตรีมีครรภ์ราว 650,000 คนในพื้นที่น้ำท่วม โดยมี 73,000 คนที่มีกำหนดคลอดในเดือนหน้า ขณะหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือสตรีได้พยายามจัดหาผ้าอนามัยให้กับหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะตอนนี้สภาพความเป็นอยู่ของผู้หญิงนับได้ว่าน่าเศร้า หลายครอบครัวสูญเสียบ้านไป ทำให้พวกเขาต้องปลูกเพิงอาศัยอยู่ริมถนน ผู้หญิงจึงต้องรอจนกว่าตะวันตกดินจึงจะกล้าหาที่ขับถ่าย ส่วนผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนต้องสวมกางเกงสีเข้มเพื่อไม่ให้คนอื่นมองเห็นคราบเปรอะเปื้อน
เจ้าหน้าที่ของปากีสถานระบุว่า ขณะนี้ภารกิจกู้ภัยช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมใกล้เสร็จสิ้นแล้ว สิ่งต่อไปที่ภาครัฐจะเร่งให้ความช่วยเหลือคือการจัดหาน้ำดื่มสะอาดและอาหารให้กับผู้ประสบภัย
ล่าสุดนั้น องค์การสหประชาชาติ (UN) พร้อมด้วยรัฐบาลปากีสถาน ประกาศระดมทุนสนับสนุนฉุกเฉินจำนวน 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,800 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับการจัดหาอาหาร น้ำดื่มสะอาด สุขอนามัยที่ดี และที่พักพิงสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
แฟ้มภาพ: Shakeel Ahmed/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: