วันนี้ (11 มกราคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามของเด็กและเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศในงานวันเด็กแห่งชาติ ถึงบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดนั้นยากหรือไม่ว่า คนทุกช่วงอายุมีความสามารถ การเป็นนายกฯ หญิงที่อายุน้อยที่สุดสามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ซึ่งด้วยเนื้องานไม่ได้ต่างจากผู้ชาย คนที่มีความตั้งใจสามารถทำได้แน่นอน
แพทองธารกล่าวว่า แต่ตนเองก็ยังถูกบูลลี่อยู่บ้างจากการเป็นผู้หญิง เมื่อสังคมเปิดกว้างขึ้น โลกเปิดกว้างขึ้น และมีการพัฒนามากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เชื่อว่าเรื่องบูลลี่จะน้อยลง และจากที่ตนเองเคยอ่านพบว่า นักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ เช่น การแต่งกายทำไมแต่งตัวแบบนี้ ซึ่งต่างจากผู้ชาย เมื่อถูกบูลลี่เราต้องรู้คุณค่าของตัวเรา เราเข้ามาทำหน้าที่นี้เพื่ออะไร และมีความตั้งใจอย่างไร และมีดีอะไร และทำเรื่องดีๆ เพื่อใครบ้าง และเราก็ต้องมีสติให้มาก เมื่อมีเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น คำว่าสติก็จะสำคัญขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจของนายกรัฐมนตรี แพทองธารกล่าวว่า แรงบันดาลใจของตนเองมี 3 ประการ
- พ่อของตนเองเคยเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เคยคิดนโยบายให้กับประเทศชาติ เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล มีการเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนฝั่ง แต่นโยบายนี้ยังอยู่ แม้จะไม่มีการพูดถึงทักษิณ แต่คิดว่าเรายังคงได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ ตนเองจึงอยากทำนโยบายที่ไม่ว่าตนเองจะอยู่ที่ไหน แต่ก็ยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้อยู่ แม้จะไม่ได้มีการประกาศ แต่ประโยชน์ดีๆ ยังตกอยู่กับประชาชนไม่ว่าจะเปลี่ยนกี่ยุคกี่สมัย
- การได้เห็นประเทศชาติในทุกๆ วัน และเรามีโอกาสได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ และทำเรื่องต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ได้รับการเยียวยา ถนนถูกซ่อม ชีวิตถูกดูแล
- ลูก เพราะลูกคือความหวัง คืออนาคต เมื่อได้เติบโตอย่างสวยงาม ทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ ในระหว่างที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเองได้สร้างอะไรดีๆ ให้กับประเทศ เหมือนเป็นการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก
เมื่อถามว่าเด็กในวันนี้ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศชาติได้บ้าง แพทองธารกล่าวว่า การเป็นเด็กในวัยนี้ การตั้งใจเรียน ทำหน้าที่ของตัวเองก็ถือว่าทำเพื่อประเทศแล้ว เพราะการหาความรู้จะทำให้เด็กๆ เป็นคนที่มีคุณภาพ มีความรู้ มีแนวทางที่จะช่วยประเทศในด้านต่างๆ ไม่ยุ่งกับยาเสพติด ทำให้ประเทศชาติมีคนที่มีคุณภาพมากขึ้น ตำรวจไม่ต้องไปแก้ปัญหา ไม่ต้องเสียเวลา ก็ถือว่าช่วยประเทศชาติได้มากแล้ว
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาพื้นที่น้ำท่วมอย่างไร แพทองธารกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนคือหน้าที่ของรัฐบาล เป็นความตั้งใจของคณะรัฐมนตรีและของสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ความเดือดร้อนของประชาชนทำให้เราก้าวเข้ามา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ไขปัญหา
อย่างปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้นั้น ก็เป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เมื่อเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ตนเองก็อยากที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาว ในพื้นที่ไหนที่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเทคโนโลยี เพื่อทำให้ปัญหาน้ำท่วมนั้นหายไปหรือลดลงได้นั้น เราก็พยายามที่จะมุ่งไปสู่ทางนั้น ส่วนสิ่งไหนที่ต้องรอเราก็รอ โดยอาจจะดูแลในเรื่องของการเยียวยา หรือถุงยังชีพต่างๆ พื้นที่ไหนที่เกิดน้ำท่วมเราก็อยากแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มีความวุ่นวาย