ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่น่าดูทีเดียว แต่หนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจด้วยพล็อตเรื่องและโปสเตอร์ที่ดูเตะตาไม่น้อยคือเรื่อง Cocaine Bear (หมีโคเคน) หรือในชื่อภาษาไทยว่า หมีคลั่ง ซึ่งที่อเมริกาภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์กระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมาก พอไปดูเว็บวิจารณ์ภาพยนตร์ดังอย่าง Rotten Tomatoes ก็ปรากฏว่าได้คะแนนสูงเป็นเสียงเดียวกันจากทั้งฝั่งนักวิจารณ์และคนดู ซึ่งได้ทั้งไอคอน ‘มะเขือสด’ และ ‘ป๊อปคอร์น’ เลยทีเดียว
หมีคลั่ง เป็นภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ที่มีกลิ่นอายของคอมเมดี้ผสม ไม่ให้ดู ‘โหดสัตว์’ มากเกินไป ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าหมีดำตัวหนึ่งที่ดันไปซัดโคเคนเข้า จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งและอาละวาด จนชาวบ้านชาวเมืองแตกตื่นเดือดร้อนกันไปหมด
ในตัวอย่างภาพยนตร์เราได้เห็นฉากไล่ล่า… คนล่าหมีบ้าง หมีล่าคนบ้าง และมี ‘นุด’ ผู้โชคร้ายที่หมีเล่นด้วยแบบไม่อ่อนโยน จนร่างแยกออกเป็นชิ้นๆ (หยึย!) ซึ่งสำหรับคอภาพยนตร์สยองขวัญที่จิตไม่แข็งมากอาจจะชอบ เพราะถ้าให้บอกแบบคนสมัยเก่าก็ต้องบอกว่าดูแล้วคิดถึงเรื่อง บ้านผีปอบ ของไทยอยู่นิดๆ (ช็อตหนีหมีขึ้นต้นไม้นี่เหมือนหนีผีปอบลงโอ่งเลย)
แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดจากจินตนาการล้วนๆ ของผู้กำกับ เอลิซาเบธ แบงก์ส แต่อย่างใด
ตรงกันข้าม เรื่อง หมีคลั่ง นี้เขาบอกเลยว่า “Inspired by True Events” หรือได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง แต่ความจริงที่ว่านี้เป็นด้านตรงกันข้ามกับในภาพยนตร์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งถือเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง
หมีโคเคนมาจากไหน? แล้วทำไมมันถึงกินโคเคน? มันกินเป็นถุงๆ แบบในภาพยนตร์จริงไหม? แล้วมันถูกปราบได้ไหม หรือฆ่าใครไปกี่คน?
ผงขาวที่หล่นจากฟ้า
เรื่องราวนี้ต้องบิดเข็มนาฬิกาย้อนเวลากลับไปไกลหน่อยเกือบ 40 ปีที่แล้วเลยทีเดียว หรือบางคนอาจจะเกิดไม่ทันด้วยซ้ำ
ในเดือนกันยายน ปี 1985 เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐเทนเนสซีได้รับแจ้งว่า พบร่างของชายคนหนึ่งพร้อมร่มชูชีพที่หลังบ้านของตัวเองในเทนเนสซี
ร่างไร้วิญญาณนั้นเป็นร่างของ แอนดรูว์ ธอร์นตัน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติด โดยศพนั้นถูกพบในสภาพที่สวมเสื้อเกราะกันกระสุนพร้อมปืน ขณะที่ร่มชูชีพที่ควรจะเป็นตัวช่วยชีวิตกลับไม่ทำงาน และพบกุญแจดอกเล็กๆ ซึ่งเป็นกุญแจเครื่องบินขนาดเล็กที่เขาขับมา ซึ่งตกอยู่ห่างออกไปไกลถึง 60 ไมล์
เหตุพิลึกนี้ทำให้เกิดการสอบสวนขึ้น และพบความจริงที่น่าตกใจว่า ธอร์นตันที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่นั้นกลับเป็นผู้ลักลอบขนยาเสพติดข้ามมาจากโคลอมเบียเสียเอง ซึ่งเขาตั้งใจจะกระโดดลงจากเครื่องบินมากลางป่า เพื่อเดินเท้าเข้าเมืองอีกทอด
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม ร่มชูชีพของเขาเกิดขัดข้อง และการดิ่งพสุธาครั้งนี้กลายเป็นการดิ่งลงนรกในป่าที่กลายเป็นสุสานขนาดใหญ่ของเขาแทน
อย่างไรก็ดี ทีมสืบสวนได้ขยายผลเพราะเชื่อว่ายังมีโคเคนบริสุทธิ์จำนวนหนึ่งที่หายไป ซึ่งธอร์นตันน่าจะโยนทิ้งไว้กลางป่าและหวังว่าจะตามมาเก็บในภายหลัง เจ้าหน้าที่เชื่อว่าโคเคนล็อตนั้นที่มีขนาด 34 กิโลกรัม และมีมูลค่ามากถึง 40 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น น่าจะตกอยู่ในภูเขาลูกใดลูกหนึ่งทางเหนือของรัฐจอร์เจีย
การระดมกำลังค้นหาจึงเกิดขึ้นหลังจากนั้น ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะค้นพบมันก่อนที่พวกพ่อค้ายาหรือใครจะได้มันไป
การตามหาถุงโคเคนในป่าที่ไม่ต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทรจึงเริ่มขึ้นและกินระยะเวลานานร่วม 3 เดือนเลยทีเดียวกว่าที่เจ้าหน้าที่จะพบ
เพียงแต่ความพยายามนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าประสบสำเร็จมากนัก เพราะมีคนค้นพบมันไปก่อนแล้ว
และความจริงก็ไม่ใช่คนด้วย แต่เป็นหมี!
หมีโคเคนผู้น่าสงสาร
ถุงโคเคนที่ตกลงมาจากฟ้านั้นไม่ได้ถูกพบโดยพรานป่าหรือพ่อค้ายาที่ไหน หากแต่เป็นเจ้าหมีดำตัวหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
แต่การพบกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับเจ้าหมีดำตัวนี้ไม่ได้เป็นเหมือนในภาพยนตร์ Cocaine Bear ที่มีการไล่ล่าฆ่ากันอย่างเร้าใจ
เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่พบหมีดำตัวนี้ที่อุทยานแชตตาฮูชี เจ้าหมีดำตัวนี้ก็ไม่มีชีวิตและลมหายใจแล้ว และร่างของมันนอนแน่นิ่งท่ามกลางหีบห่อบรรจุโคเคนที่ถูกฉีกขาดกระจายเกลื่อนเต็มพื้น
โคเคนนี้ก็คือโคเคนที่ธอร์นตันโยนทิ้งลงมานั่นเอง และเจ้าหมีดำก็คงพบโดยบังเอิญ และกินเข้าไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เพื่อความชัดเจน ทางการจึงได้นำซากหมีดำที่มีน้ำหนักตัว 175 ปอนด์ กลับมาเพื่อชันสูตร ก่อนจะพบความจริงที่น่าเศร้า
การชันสูตรยืนยันว่า สาเหตุการเสียชีวิตของมันเกิดจากการที่เลือดออกในสมอง ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว เกิดภาวะไตวาย และภาวะหัวใจล้มเหลว
หรือพูดง่ายๆ คือ มันตายเพราะโคเคน และมันตายเพราะเสพยาเกินขนาด
“เจ้าหมีมันไปถึงโคเคนก่อนเรา มันฉีกถุงออกและกินโคเคนเข้าไป” เจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์ต่อนักข่าว AP เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1985
สรุปคือไม่มีเหตุการณ์หมีคลั่งไล่ฆ่าคนแบบในภาพยนตร์ มีแต่ความตายที่น่าเศร้าของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร
มันก็แค่หิว…
เครื่องจักรสังหารหรือเครื่องจักรกินอาหาร
พูดถึงหมีในความทรงจำของผู้คนแล้วมีหลากหลาย
สำหรับเด็กผู้หญิง Teddy Bear คือเพื่อนที่น่ารักเสมอ ไปจนถึงตัวละครสุดน่ารักอย่าง Winnie the Pooh หรือ Paddington Bear ที่ครองใจทุกคนตลอดระยะเวลายาวนานร่วมร้อยปี
แต่ในชีวิตจริงหมีไม่ได้เป็นสัตว์น่ารักขนปุยแบบนั้น มันมีความดุร้าย เป็นนักฆ่าตามสัญชาตญาณ เพียงแต่สิ่งที่มันจะสังหารนั้นไม่ได้เจาะจงว่าเป็นสิ่งที่มีชีวิต
เดฟ วัทเทิลส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหมีดำ (Black-Bear) จากศูนย์วิจัย Massachusetts Division of Fisheries and Wildlife บอกว่า จริงๆ แล้วหมีเป็นเครื่องจักรกินอาหารมากกว่าเครื่องจักรสังหาร
“จริงๆ แล้วพวกมันคือเครื่องจักรกินอาหาร” ในความหมายถึงการกินไม่หยุด “พวกมันก็แค่ต้องหาอาหารที่ให้พลังงานและแคลอรีเยอะๆ ที่หาได้ง่ายเท่านั้น”
อย่างไรก็ดี ด้วยความฉลาดและสัมผัสพิเศษด้านการดมกลิ่นของมันทำให้มันรู้ว่า มนุษย์นั้นเป็นแหล่งอาหารที่สามารถพึ่งพาได้ นั่นทำให้เราได้เห็นภาพของหมีที่เดินบุกเข้ามาในเมือง ในย่านชุมชนที่อยู่อาศัย เพื่อที่จะคุ้ยถังขยะ
หรือบางครั้งก็เข้าไปแย่งอาหารสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นนก รังผึ้ง อาหารในปศุสัตว์ หรือบุกบ้านคนด้วยถ้าหิวจัด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว
ที่ดูร้ายกาจคือบางทีพวกมันก็ขี้สงสัยและฉลาดเกินถึงขั้นเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกิน บางทีก็ได้ของกิน บางทีก็หยิบเอาเบียร์ติดไม้ติดมือไปด้วย
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเจ้าหมีดำผู้โชคร้ายจึงลองแกะถุงโคเคนออกและกินเข้าไป
คำเตือนจาก Pablo EskoBear
ด้วยความที่ร่างของเจ้าหมีโคเคนผู้น่าสงสารยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก ร่างของมันจึงถูกสตัฟฟ์ไว้ให้อยู่ในสภาพใกล้เคียงตอนยังมีชีวิตมากที่สุด
เจ้าหมีโคเคนที่ยังดูเหมือนมีชีวิตนี้เคยได้อยู่ในบ้านของ เวย์ลอน เจนนิงส์ ศิลปินคันทรีชื่อดัง ที่เก็บมันไว้ในบ้านของเขาที่ลานเบกัน ก่อนที่มันจะมาอยู่ที่ Kentucky Fun Mall ในเมืองเล็กซิงตัน รัฐเคนทักกี ที่ซึ่งประชาชนคนทั่วไปสามารถเดินชมเจ้าหมีโคเคนที่ถูกสตัฟฟ์นี้ได้อย่างใกล้ชิด
เมื่ออยู่ที่นั่นนาน และกาลเวลาผ่านไป หมีโคเคนตัวนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในไอคอนของรัฐเคนทักกี และเมื่อภาพยนตร์เข้าฉาย แน่นอนว่าก็การผลิตสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับภาพยนตร์หมีคลั่ง เช่น หมวก เสื้อยืด หรือแก้วรูปหมีโคเคน ออกมาวางจำหน่าย
บนตัวของหมีโคเคนที่ Kentucky Fun Mall นั้นมีป้ายห้อยเอาไว้บนคอ เพื่อเตือนใจและบอกเล่าเรื่องราวแก่คนรุ่นหลังด้วยว่า
นี่คือ ‘หมีโคเคน’ หรือ Pablo EskoBear ซึ่งตั้งชื่อล้อไปกับ ปาโบล เอสโกบาร์ (ราชาพ่อค้ายาเสพติดในตำนานชาวโคลอมเบียที่เสียชีวิตเมื่อปี 1993)
“อย่าคิดลองเล่นยา ไม่อย่างนั้นคุณอาจตายหรือถูกสตัฟฟ์ไว้เหมือนหมีตัวนี้”
และนี่คือโชคชะตาที่แสนเศร้าของเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่นำไปสู่ภาพยนตร์ที่แตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมาก
หวังว่าอย่างน้อยบทความนี้จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของเจ้าหมีโคเคนที่น่าสงสารตัวนี้มากขึ้น
ภาพ: Michael Swensen for The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง:
