หลังประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายและกำไรในปีที่ผ่านมา ปี 2020 โออิชิจึงขอรุกตลาดในเมืองไทยอย่างต่อเนื่องด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงเปิดตัวร้านอาหารและร้านขนมที่จะทำให้ปีนี้บ้านเราจะมีของอร่อยๆ ให้กินอีกเยอะ
ล่าสุดโออิชิได้ตอกย้ำการเป็นเจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่นด้วยการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือใหม่ รวมถึงเปิดตัวร้านอาหารและร้านขนมเป็นครั้งแรกเพื่อเอาใจคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นทั้งสายคาวและสายหวาน เริ่มจาก Shabushi สาขาสามย่านมิตรทาวน์ ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงเป็นสาขาแรก เพื่อแก้ปัญหาคนที่เลิกงานดึกๆ แล้วไม่รู้จะหาของอร่อยที่ไหนกินดี หรือคนที่ต้องการของอุ่นๆ กินรองท้องในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ รับรองว่ามาที่นี่ไม่มีคำว่าร้านปิดหรือของหมด
ต่อด้วยห้องอาหารน้องใหม่อย่าง Sakae ที่นำเสนออาหารสไตล์ชาบูเช่นกัน แต่ยกระดับเป็นชาบูพรีเมียม กินแยกหม้อ ไม่ใช่สายพาน ถอดสูตรมาจากชาบูต้นตำรับแท้ๆ วัตถุดิบส่วนใหญ่จึงนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเนื้อวัวที่ใช้เป็นวัวสายพันธุ์ดีของญี่ปุ่นที่นุ่มละลายในปาก เสิร์ฟมาเป็นเซตพร้อมข้าวและของหวาน แน่นอนว่าคุณภาพขนาดนี้ ราคาย่อมโดดไปไกลจาก Shabushi แต่ในแง่ความคุ้มค่าก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนอยากกินชาบูดีๆ ที่ไม่ใช่บุฟเฟต์ แต่มีเนื้อดีๆ และเครื่องเคียงสดสะอาดไว้บริการ โดยสาขาแรกจะเปิดในช่วงไตรมาสที่ 2 ณ The PARQ พระรามสี่
นอกจากนี้ยังมีร้านขนมหวานอย่าง Oyoki ที่ขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสเข้มข้นที่ได้มาจากความหอมมันของนมฮอกไกโด ซึ่งทางโออิชิเคลมว่าเป็นที่แรกในไทยที่ใช้นมฮอกไกโดแท้ 100% มาเป็นเบสในการทำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ก่อนแต่งรสชาติให้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น รสชาเขียว หรือรสผลไม้ต่างๆ สาขาแรกเปิดแล้วที่ชั้น B อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ แต่หากใครไม่สะดวกไปย่านนั้น รอกินสาขา 2 ที่กำลังเปิดเร็วๆ นี้ได้ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ส่วนแฟนขาประจำของร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดมากว่าสิบปีในตึกแกรมมี่อย่าง Hou Yuu เตรียมตัวดีใจกันได้ เพราะทางโออิชิมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังย่านไลฟ์สไตล์ต่างๆ ในเมือง โดยดึงเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบร้านให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ควบคู่กับรสชาติของอาหารที่หลายคนคุ้นเคย
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันเครือใหญ่อย่างโออิชิยังต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์โลกที่พฤติกรรมและความสนใจของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยการอาศัยนวัตกรรมใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์สินค้าให้โดนใจผู้บริโภคยิ่งขึ้น ซึ่งหมายรวมไปถึงในส่วนของ Oishi Eato ซึ่งเป็นอาหารสำเร็จรูปที่วางขายในร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่ต้องตอบโจทย์ทั้งความอร่อย คุณค่าทางโภชนาการ และแพ็กเกจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือกลุ่มเครื่องดื่มที่นอกจากจะปล่อยชาเขียวพรีเมียม โออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ แล้ว ปีนี้ยังตั้งใจเจาะตลาดกลุ่มวัยทีนด้วยแคมเปญ Oishi x ROV กับการดื่มชาเขียวรสแอปเปิ้ลฮันนี่ดับอาการหัวร้อน ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสินค้าขายดีที่ต่อให้ไม่ใช่วัยทีนก็อยากหาซื้อมาดื่ม
น่าติดตามกันดูว่าในช่วงครึ่งปีหลัง วงการอาหารในบ้านเราจะปรับตัวกันอย่างไร เมื่อธุรกิจอาหารถูก Disrupt จากการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย การให้ความสำคัญกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงพฤติกรรมของคนยุคปัจจุบันที่มองหาความสะดวกสบายและรวดเร็วเป็นที่ตั้ง ในยุคสมัยที่ทุกอย่างสามารถสั่งการได้พริบตาเดียวผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
ภาพ: Courtesy of OYOKI
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์