วันนี้ (3 กรกฎาคม) ประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังประชุมแนวทางเยียวยาลูกจ้าง องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค.) ที่ก่อนหน้านี้ สำนักงานมีหนังสือคำสั่งเลิกจ้าง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ว่าที่ประชุมได้พิจารณาหาแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าชดเชยบางส่วนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้าง
ทั้ง 961 คน รายละ 100,000 บาท โดยจะให้มีการเบิกจ่ายค่าชดเชยได้ภายในวันนี้ทันที ไม่ต้องรอการเบิกจ่ายในปลายเดือนกรกฎาคมตามวงรอบบัญชีเงินเดือน
ส่วนการจ่ายเงินชดเชยจะแบ่งออกเป็นสองประเภทตามกฎหมายกำหนด โดยใช้เงื่อนไขอายุการทำงานและเงินเดือนล่าสุดเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา ซึ่งกลุ่มพนักงานที่มีอายุงานมากกว่า 20 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินชดเชยรวม 400 วัน หรือประมาณ 13 เดือน
ส่วนกลุ่มพนักงานที่มีอายุงานต่ำกว่า 20 ปี จะได้รับเงินชดเชย 300 วันหรือ 10 เดือน และหากคำนวณตามมาตรการเยียวยาชดเชยแล้ว พนักงานบางคนจะได้รับเงินชดเชยและเงินบำเหน็จรวมสี่ล้านบาทเศษ และผู้ที่ได้รับเงินต่ำสุดจะได้รับไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท
การชดเชยโดยรวมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ขององค์การค้าฯ จะได้รับมากกว่าพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไปที่มีการเลิกจ้าง และพนักงานที่ถูกเลิกจ้างทั้ง 961 คนนั้นมีอายุงานเฉลี่ย 25 ปี 5 เดือน และมีเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 31,287 บาท ซึ่งการพิจารณาชดเชยครั้งนี้ สกสค. ต้องใช้เงินเยียวยาทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1,285 ล้านบาท และยังคงสิทธิ์ในการพิจารณาค่าทำงานในวันพักร้อน ซึ่งอยู่ระหว่างการคิดคำนวณเพิ่มเติมอีกด้วย โดยเงินทั้งหมดทางองค์การค้าฯ ต้องไปกู้ยืมเพื่อมาดำเนินการในการจ่ายค่าชดเชยครั้งนี้
พร้อมย้ำว่าทางบอร์ดบริหาร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ห่วงใยว่าแม้มีการเลิกจ้าง แต่ระหว่างนี้หากพนักงานมีเงินก้อนไปใช้จ่ายล่วงหน้าก่อนก็จะเป็นเรื่องดี ถือเป็นการแบ่งเบาภาระ หรืออาจจะช่วยเหลือให้พนักงานบางคนไปตั้งตัวได้
ส่วนเงินเดือนในเดือนมิถุนายนนั้น องค์การฯ สามารถจ่ายเงินให้ได้แค่ร้อยละ 62 ตามกฎกระทรวง และองค์การค้าก็ไม่ใช่บริษัทเอกชน แม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 วันนี้บอร์ดจึงมีมติจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเร่งด่วนให้ไป 100,000 บาทก่อน ในระหว่างการจัดการเงินเดือนมิถุนายน
ประเสริฐยังย้ำว่าการเลิกจ้างพนักงาน ลูกจ้างขององค์การฯ ครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของ อดุลย์ บุสสา ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ คนใหม่ ที่เข้ามารับหน้าที่จะต้องเสนอแผนจัดพิมพ์เข้ามาภายใน 30 วัน แล้วเสนอมาที่บอร์ด รวมถึงเสนอทางจัดสรรพนักงานชุดใหม่ที่จะเข้ามาทำงานต่อ แต่ต้องอยู่ในระเบียบขององค์การค้าฯ ใหม่ โดยเฉพาะฐานเงินเดือนที่ต้องปรับใหม่ และย้ำว่าการจ่ายเงิน 100,000 บาทนี้จะไม่มีผลต่อการฟ้องร้องใดๆ ทางกฎหมายของพนักงาน และลูกจ้างทุกคนสามารถไปฟ้องร้องต่อได้
“บอร์ดขอยืนยันว่าการเลิกจ้างครั้งนี้ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนการทุจริตที่ทางสหภาพแรงงานฯ ออกมาเปิดเผยนั้น กระทรวงศึกษาฯ พร้อมจะเปิดรับทุกข้อมูลขอให้แจ้งมา แต่ยืนยันว่าเหตุที่เลิกจ้างเพราะการแข่งขันธุรกิจสู้กับตลาดภายนอกไม่ได้ จึงขาดทุนสะสมมากกว่า 6,700 ล้านบาทในเวลา 15 ปี” ประเสริฐ กล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
