โอซามุ ซูซูกิ (Osamu Suzuki) อดีตประธาน Suzuki Motor ผู้เปลี่ยนโฉมบริษัทจากความไม่เป็นที่รู้จักสู่ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก เสียชีวิตลงในวัย 94 ปี หลังอุทิศตนให้กับบริษัทมายาวนานกว่า 40 ปี
จุดเริ่มต้นของตำนานเริ่มขึ้นในปี 1958 เมื่อซูซูกิเข้าร่วมงานกับบริษัทผ่านการแต่งงานกับลูกสาวของ ชุนโซ ซูซูกิ (Shunzo Suzuki) ประธานคนที่ 2 ของบริษัท
ด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์อันกว้างไกล เขาได้นำพาบริษัทจากที่มียอดขายเพียง 3.2 แสนล้านเยนในปี 1978 เมื่อเริ่มดำรงตำแหน่งประธาน เติบโตขึ้นเป็น 3 ล้านล้านเยนในระหว่างที่เขาบริหารงาน และพัฒนาต่อเนื่องจนมียอดขายสูงกว่า 5 ล้านล้านเยนในปีงบประมาณล่าสุด
ความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของซูซูกิคือการตัดสินใจเข้าสู่ตลาดอินเดียในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ในขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Toyota มุ่งสู่ตลาดสหรัฐฯ ซูซูกิกลับมองเห็นโอกาสในตลาดที่ยังไม่มีใครสำรวจ ด้วยปรัชญาที่ว่า “ถ้าเราไปตลาดที่ไม่มีใครอยู่ เราก็เป็นอันดับ 1 ได้” ด้วยตระหนักดีว่าบริษัทไม่มีโอกาสชนะหากเข้าสู่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง
“ไม่ว่าคุณจะเป็นคนล้มเหลวแค่ไหน คุณก็อยากมีสักอย่างที่ทำได้ดีกว่าคนอื่น เราเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับสุดท้ายในญี่ปุ่นมานานแล้ว แต่ถ้าเราไปที่ตลาดที่ไม่มีใครอยู่ เราก็เป็นอันดับ 1 ได้ เพื่อพนักงานของเรา ผมอยากจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าแม้แต่ Suzuki ก็ยืนอยู่จุดสูงสุดได้” ซูซูกิกล่าว
ความใส่ใจในรายละเอียดและความกระตือรือร้นของเขาในการอธิบายพื้นฐานการจัดการโรงงาน แม้กระทั่งเรื่องการปูพื้นคอนกรีตเพื่อป้องกันฝุ่น สร้างความประทับใจให้กับรัฐบาลอินเดียจนเลือก Suzuki Motor เป็นพันธมิตร นำไปสู่การก่อตั้ง Maruti Suzuki ในปี 1982 ซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดถึง 40% ในอินเดีย
ซูซูกิไม่เพียงสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับพันธมิตร โดยเฉพาะการริเริ่มความร่วมมือกับ Toyota Motor ในปี 2016 จนพัฒนาเป็นพันธมิตรทางทุนในปี 2019 อากิโอะ โทโยดะ (Akio Toyoda) ประธาน Toyota ยกย่องเขาในฐานะ ‘บิดาผู้พัฒนารถ Kei car (รถยนต์ขนาดเล็ก) ของญี่ปุ่น’ ที่ทำให้รถยนต์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของประชาชนชาวญี่ปุ่น
แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต ซูซูกิก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพันธมิตร ดังจะเห็นได้จากการเดินทางไปร่วมงานวันเกิดครบรอบ 90 ปีของ รวินทรา จันทรา ภารกาวา (Ravindra Chandra Bhargava) ประธาน Maruti Suzuki ที่กรุงเดลี ประเทศอินเดีย แม้สุขภาพจะไม่แข็งแรง
นี่สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทและความรับผิดชอบที่มีต่อธุรกิจจนวาระสุดท้ายของชีวิต ดังคำพูดที่ว่า “ผมไม่เคยนอนหลับได้โดยไม่กังวลในตอนกลางคืน”
ภาพ: Junko Kimura / Getty Images
อ้างอิง: