×

กลุ่ม ‘Orizon-เพชร โอสถานุเคราะห์’ ขายบิ๊กล็อตหุ้นโอสถสภากว่า 1.2 หมื่นล้าน หวังนำเงินทุ่มโครงการศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา

30.03.2021
  • LOADING...
กลุ่ม ‘Orizon-เพชร โอสถานุเคราะห์’ ขายบิ๊กล็อตหุ้นโอสถสภากว่า 1.2 หมื่นล้าน หวังนำเงินทุ่มโครงการศิลปวัฒนธรรมและการศึกษา

วรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โอสถสภา (OSP)​ รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กรณีที่มีรายการบิ๊กล็อตรวมกว่า 762.71 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.39% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 33 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาทนั้น 

 

รายการดังกล่าวเกิดจากการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 คนในกลุ่ม Orizon คือ 1. Orizon Limited และ 2. เพชร โอสถานุเคราะห์ ซึ่งได้เข้าทำรายการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทที่ถืออยู่โดยรวม 381.35 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.69% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยขายให้กับผู้ถือหุ้นเฉพาะเจาะจง และทำรายการผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 30 มีนาคม 2564 แบ่งเป็น

 

1. Orizon Limited จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 261.06 ล้านหุ้น คิดเป็น 8.69% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท โดยกลุ่ม Orizon เป็นกลุ่มบุคคลที่กระทำการร่วมกัน หรือ Acting in Concert ประกอบด้วยผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่ 1. Orizon Limited 2. รัตน์ โอสถานุเคราะห์ 3. เพชร โอสถานุเคราะห์ 4. ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ 5. ภูรี โอสถานุเคราะห์ 6. คฑา โอสถานุเคราะห์​ และ 7. นาฑี โอสถานุเคราะห์

 

2. เพชร โอสถานุเคราะห์ จำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 120.29 ล้านหุ้น คิดเป็น 4% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท

 

ทั้งนี้ บริษัทได้รับแจ้งจาก นิติ โอสถานุเคราะห์ ว่าได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพิ่มเติมจำนวน 215 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.16% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายอื่นๆ ได้รับซื้อหุ้นสามัญจำนวน 166.35 ล้านหุ้น 

 

ภายหลังการทำรายการดังกล่าว ทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป โดยกลุ่ม Orizon ถือหุ้นลดลงเหลือ 15.06% จากเดิม 27.75% ส่วน นิติ โอสถานุเคราะห์ มีสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็น 23.80% จากเดิม 16.65%

 

ทางด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ OSP ชี้แจงรายการซื้อขายหุ้นดังกล่าว เพื่ออุทิศทรัพยากรของตนไปใช้ในโครงการอื่นๆ ซึ่งมุ่งหมายและช่วยวางรากฐานโครงการด้านศิลปวัฒนธรรม และการศึกษาของประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการสนับสนุน 

 

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท โครงสร้างการจัดการ และนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งและมั่นคงในประเทศไทยและในภูมิภาค สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising