วันนี้ (31 ตุลาคม) เวลา 13:00 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดหมายจัดงานรำลึก นวมทอง ไพรวัลย์ ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมที่สะพานลอยด้านหน้าสำนักพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต ภายหลังถูกปรามาสจากการขับรถแท็กซี่ชนรถถังทหารในเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ. 2549
ธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. กล่าวเปิดหน้าปะรำพิธีว่า “ลุงนวมทองเป็นสามัญชน ไม่ใช่ปัญญาชน รู้ได้ถึงภยันตรายรัฐประหาร 2549 และด้วยตัวคนเดียวก็ออกมาแสดงออกต่อต้าน มีสำนึกต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านรัฐประหาร ลุงนวมทองจึงเป็นคนแรกที่แสดงออกต่อต้านรัฐประหารระลอกใหม่ตั้งแต่ 2549 จนถึงปัจจุบัน
“เราไม่สนับสนุนการทำอัตวินิบาตกรรม แต่อยากให้ประชาชนไทยได้เข้าใจว่าลุงนวมทองเป็นวีรชนประชาธิปไตยคนแรกของยุครัฐประหารในสิบปีนี้ ตอกย้ำว่าจิตใจที่ต่อสู้ กล้าเสียสละ แม้ตัวคนเดียวก็กล้าจะทำ ลบคำสบประมาทที่ว่าไม่มีใครยอมเสียชีวิตเพื่อระบอบประชาธิปไตยได้ นี่ควรเป็นโอกาสที่จารึกในประวัติศาสตร์ อยากฝากให้คนในกองทัพและมีส่วนในการรัฐประหารตลอดมาได้รับรู้ว่าประชาชนรักประชาธิปไตยนั้นเสียสละ พลีชีพ เป็นแบบอย่างของคนรุ่นต่อไป”
ด้าน วรชัย เหมะ แกนนำ นปช. อดีตผู้ต้องโทษในคดี นปช. เมษายน 2552 ปราศรัยต่อว่า “วันนี้เป็นโอกาสอันดีครั้งแรกที่เจอพี่น้องผู้รักประชาธิปไตยและแกนนำทุกท่าน วันนี้ผมมีความรู้สึกว่าคุณลุงนวมทองเป็นคนคิดมองเห็นยาวไกล ด้วยหัวใจนักประชาธิปไตย เขาคิดว่าทำอย่างนี้แล้วทำให้คนทั้งประเทศคิดว่าประชาธิปไตยสำคัญอย่างไร แม้แต่ชีวิตก็มอบให้ เขาเห็นว่าถ้าปล่อยให้เผด็จการบริหารประเทศจะฉิบหายอย่างไร เพราะฉะนั้น เขาเลยลุกขึ้นต่อสู้ไล่เผด็จการ ต้องให้กำลังใจเด็กๆ ที่ออกมาต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ สิ่งที่ลุงนวมทองทำมาทำให้เด็กสานต่อและมองเห็นว่าศัตรูของประชาชนไทยคืออะไรต่อจากนี้”
สมยศ พฤกษาเกษมสุข หนึ่งในนักกิจกรรมกลุ่มราษฎร เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมที่แยกราชประสงค์ช่วงเย็นของวันนี้ และกล่าวอาลัยนวมทองว่า “ลุงนวมทองใช้ความกล้าหาญในการพลีชีพและต่อต้านรัฐประหารเพื่อประชาธิปไตย 31 ตุลาคม ลุงนวมทองตัดสินใจจะฆ่าตัวตายเพื่อบอกเจตนารมณ์ว่าประชาธิปไตยมีความหมายเท่าชีวิต ใช้อุปกรณ์คือเชือกที่ใช้ลากรถแกมา ผูกกับคอบันไดสะพานลอยด้านซ้ายผมนี้ การตายได้ปลุกการต่อสู้และความหวงแหนในสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยให้กับพี่น้องกลายมาเป็นคนเสื้อแดง การพลีชีพของลุงนวมทองคือการปลุกวิญญาณผู้รักประชาธิปไตย ทั้ง นปก., นปช. ที่ถูกสังหารกว่าร้อยศพ จนราษฎรที่ถูกคดี 112 วันนี้พวกผมจึงมารวมตัวกันเพื่อบอกกับวิญญาณลุงนวมทองไพรวัลย์ว่า เราจะรวมกลุ่มรวมพลังสานต่อเจตนารมณ์เพื่อประชาธิปไตยต่อไป”
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวต่อว่า “การรำลึกที่สำคัญที่สุดคือการยืนหยัดเจตนารมณ์ของลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ลุงนวมทองประกาศอย่างกึกก้องว่าคนไทยฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ แปลว่าไม่มีใครกลัวเผด็จการรัฐประหาร จารีตนิยมเป็นอันขาด หากว่าพวกคุณกดเหงรังแกกดขี่ ประชาชนย่อมต่อสู้กับพวกคุณอย่างแน่นอน ลุงนวมทองประกาศชัดว่าชาติหน้าเกิดมาคงไม่เจอการปฏิวัติอีก ผมจึงอยากกราบเรียนสื่อทุกท่านว่า ที่สำคัญคือเราต้องแบกรับภารกิจนี้ ทำให้การรัฐประหารเกิดขึ้นไม่ได้อีกแล้วอีกต่อไป ด้วยการจับคนยึดอำนาจมาลงโทษตามกฎหมาย โลกยังมีศาลอาญาระหว่างประเทศที่ยื่นมือเข้ามาเพื่ออำนวยความยุติธรรมได้ ขอฝากให้พรรคการเมืองฟากประชาธิปไตยทุกพรรคต้องมีนโยบายรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศในการพิจารณาข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และให้พี่น้องประชาชนคำนึงถึงนโยบายนี้ในการเลือกตั้งด้วย สุดท้ายต้องร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนด้วย”
ขณะที่ พรรณิการ์ วานิช คณะก้าวหน้า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารอดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการดำเนินการผลักดันสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศว่า “ช่อไม่ได้จับไมค์ปราศรัยมานานมาก วันนี้ฟังหมอเหวงแล้วอดไม่ได้จริงๆ ความฝันของลุงนวมทองคือ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่เจอปฏิวัติอีกต่อไป พรรคการเมืองที่ตั้งใจทำเรื่องนี้คือพรรคที่ถูกยุบไปแล้ว เรามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเข้าเป็นภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ มันคนไหนทำรัฐประหาร มันคนไหนเอารถฉีดน้ำมาฉีดเยาวชน ต้องเอาพวกมันไปติดคุกที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อนของเรา ลูกหลานของเรา อยู่ในคุกเพียงเพราะต่อสู้เพื่อความฝันของเรา วันนี้ยังเป็นวันของพวกมัน แต่ประเทศนี้เป็นของพวกเราประชาชน และสักวันหนึ่งที่พวกเราชนะ ผู้ที่ทำกับประชาชนเจ้าของประเทศจะต้องอยู่ในเรือนจำ พวกเราต้องทำไปด้วยกัน ไม่มีอะไรอาจต้านแรงของมหาประชาชน”
จากนั้น วีระกานต์ มุสิกพงศ์ เป็นผู้แทนฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชารัตนตรัย พระสงฆ์ 4 รูป ให้ศีล สวดบังสุกุลอุทิศกุศลแก่ นวมทอง ไพรวัลย์ ช่วงสุดท้ายผู้จัดกิจกรรมวางพวงหรีดดอกไม้บริเวณสดมภ์อนุสรณ์ เป็นอันเสร็จพิธี