บล.กรุงศรี ออกบทวิเคราะห์ในวันนี้ (3 พฤษภาคม) ที่ประเมินว่า ในไตรมาสที่ 1/65 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จะมีกำไรอยู่ที่ราว 3 พันล้านบาท แม้เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ขณะที่รัฐบาลปรับราคาขายน้ำมันดีเซลเป็น 32 บาทต่อลิตรในวันที่ 1 พฤษภาคม จากเพดานเดิมที่ 29.9 บาทต่อลิตร โดยส่วนเพิ่ม 2 บาทจะสมทบกองทุนน้ำมัน ซึ่งเคยอุดหนุนราคาน้ำมัน 10.9 บาทต่อลิตรก่อนการปรับเพดานราคา แต่การปรับราคาจะไม่กระทบอัตรากำไรขั้นต้นของผู้ค้าปลีกน้ำมัน ซึ่งรวมถึง OR บล.กรุงศรีคาดอุปสงค์น้ำมันจะเติบโต QoQ ในไตรมาสที่ 2 จากช่วงวันหยุดยาว การผ่อนคลายล็อกดาวน์ และการเปิดภาคท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายน
แต่อย่างไรก็ตาม OR ใช้เงินลงทุนไปกว่า 4.5 พันล้านบาทตั้งแต่กลางปี 2020 แต่การลงทุนยังไม่สร้างกำไรที่มีนัยสำคัญ ทำให้มองว่า Valuations ปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่แพง จึงคงคำแนะนำขาย 22 บาทต่อหุ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- OR สยายปีกไปกัมพูชาเพิ่ม ลุยจัดตั้ง 2 บริษัทย่อย ทุนจดทะเบียนรวมกันไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์
- ‘OR’ เตรียมเปิดตัว All in One Application ปลายปีนี้ หวังเชื่อมต่ออีโคซิสเต็ม ขึ้นแท่นเป็นผู้นำ Digital Mobility & Lifestyle
- ‘ORZON Ventures’ ประกาศลงทุนใน 5 สตาร์ทอัพ หนุนผู้ประกอบการผนึกกำลังต่อยอดกลยุทธ์ Mobility และ Lifestyle:
ณ เวลา 13.07 น. ราคาหุ้นของ OR 24.90 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือราว 0.40% ด้วยกัน ขณะที่ ณ วันที่ 29 เมษายน หุ้น OR ปิดตลาดอยู่ที่ 25 บาท คิดเป็นมาร์เก็ตแคป 3 แสนล้านบาท
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 25 มีนาคม บล.หยวนต้า ได้ประเมินราคาที่เหมาะสมของหุ้น OR ไว้ที่ 25.50 บาท โดยมองว่าที่ระดับราคาปัจจุบัน OR ถือว่า Fully-Valued แล้ว
อย่างไรก็ตาม OR ได้มีการประกาศแผนการลงทุน 9.3 หมื่นล้านบาทระหว่างปี 2565-2569 โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนตามธุรกิจดังนี้
- กลุ่มธุรกิจ Mobility (ธุรกิจน้ำมันเดิม) 36%
- กลุ่มธุรกิจ Lifestyle (ธุรกิจ Non-oil เดิม) 22%
- กลุ่มธุรกิจ Global (ธุรกิจต่างประเทศเดิม) 14%
- กลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business (VC ผ่าน ORZON และ ORION) 20%
- ธุรกิจอื่นๆ 7%
โดยการลงทุนจะครอบคลุมทั้งการขยายเครือข่ายของธุรกิจเดิม การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเดิม การลงทุนในธุรกิจใหม่ และการทำ M&A เพื่อสร้าง Synergy เพิ่มเติม ซึ่งในปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น 1. การติดตั้ง EV Charger เพิ่มเติม 350 ห้วจ่ายภายในปี 2565 2. การทำ Solar Rooftop ในสถานีบริการและ 3. การลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น Pomelo และ GoWabi ซึ่งจะเป็น Upside ให้กับ OR ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน OR ยังได้ประกาศเป้าหมายภายในปี 2573 (แผน 10 ปี) จะลงทุนรวม 2 แสนล้านบาทโดย “คาดหวังว่าในปี 2573 จะมี EBITDA มากกว่า 40,000 ล้านบาท กว่า 50% มาจากการเติบโตร่วมกับพันธมิตรของ OR” จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าว
สำหรับผลการดำเนินการปี 2564 ของ OR มีรายได้การขายและบริการ 511,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 11,474 ล้านบาท สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,683 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30.5%
