วันก่อน เพื่อนดิฉันที่เป็นโค้ชบ่นถึงคนในวงการเดียวกันท่านหนึ่งว่า “โค้ช A ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย เอาเปรียบลูกศิษย์เกินไปหน่อยแล้วมั้ง เดี๋ยวจะทำให้ภาพลักษณ์ของคนอื่นๆ ในวงการนี้เสียหายหมด” เขาสาธยายพฤติกรรมไม่น่ารักอีกหลายอย่างของคุณ A ให้ดิฉันฟัง
ระหว่างฟังเรื่องราวของเพื่อนตัวเองไป ในหัวก็แวบภาษาญี่ปุ่นคำหนึ่งขึ้นมา
ฮันเมนเคียวฉิ (反面教師)
ฮันเมน แปลว่า ด้านตรงข้าม
เคียวฉิ แปลว่า ครู
รวมกันหมายถึง ครูด้านตรงข้าม
ปกติ ครู (เซนเซ) จะได้รับการยกย่องว่าควรยึดถือเป็นแบบอย่าง น่าชื่นชม
แต่คำว่า ‘ครูด้านตรงข้าม’ นี้ คนญี่ปุ่นจะใช้เมื่อต้องการพูดถึงตัวอย่างไม่ดีที่เราไม่ควรเอาอย่าง ขณะเดียวกันก็นับถือว่าคนคนนั้นเป็นครูเช่นกัน เพราะสอนตนเองว่า อย่าทำพฤติกรรมเยี่ยงนั้น ในภาษาไทยอาจแปลง่ายๆ ว่า ‘ถือเสียว่าเขาเป็นครู (แล้วอย่าทำตามแบบเขา)’
ดิฉันได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกจากเพื่อนสนิทคนญี่ปุ่นสมัยเรียนปริญญาโท ตอนนั้นนักศึกษาชายชาวจีนคนหนึ่งเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จเข้าไปนั่งซู้ดๆ กินในออฟฟิศของพวกเรา กลิ่นโชยยั่วยวนได้ใจมาก เสียงซู้ดก็ดังรบกวนคนอื่นๆ ที่นั่งทำงานในห้องเดียวกัน ดิฉันสะกิดเพื่อนญี่ปุ่น บอกให้ดูตานั่นทำสิ เพื่อนสาวหรี่ตาเล็กน้อย ทำหน้าเพลียๆ แล้วบอกดิฉันว่า “ให้เขาเป็นฮันเมนเคียวฉิของเรากันเถอะ” จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานวิจัยของเธอต่อไป
ดิฉันก็ได้แต่อึ้ง…
ตามปกติ เวลาดิฉันบ่นอะไรให้เพื่อนๆ คนไทยฟัง เพื่อนมักจะร่วมเมาท์เข้าข้างเรา ถ้าบ่นถึงใครที่นิสัยแย่มากๆ เพื่อนก็จะร่วม… เอ่อ… ด่าบุคคลนั้นไปกับเรา นี่แหละ มิตรภาพที่แท้จริง ยิ่งบ่น ยิ่งเมาท์ ก็ยิ่งมัน แต่ถามว่าบ่นให้เพื่อนฟังแล้วได้อะไรไหม ก็ต้องเรียนท่านผู้อ่านตามตรงว่าได้แต่ความโล่งใจกับความสะใจ
พอมาเจอเพื่อนญี่ปุ่น นางเบรกวิญญาณการเมาท์ของดิฉัน แถมชักจูงให้ดิฉันเรียนรู้จากเรื่องร้ายๆ ด้วยคำพูดเพียงคำเดียวเท่านั้น…ให้เขาเป็นครู
ในภาษาไทย เรามีคำคล้ายๆ แบบนี้บ้างไหมนะ
‘ผิดเป็นครู’ …เหมือนจะคล้าย แต่คำนี้ใช้เมื่อเราทำอะไรผิดพลาด แล้วเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
‘ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง’ …คำนี้ก็สอนใจว่าอย่ามัวแต่ไปว่าคนอื่น เดี๋ยวเราจะเป็นเอง
อาจไม่ได้มีคำตรงตัวเท่าไร เรามักจะพูดกันตรงๆ ไปเลยว่า ‘ดูไว้เป็นตัวอย่าง อย่าทำ’
ดิฉันจึงชอบคำว่า ‘ฮันเมนเคียวฉิ’ มาก ๆ
หากเราเจอคนที่ทำพฤติกรรมที่เราไม่ชอบ เช่น ขับรถปาดหน้า แซงคิวตอนซื้อของ ปกติเราอาจหงุดหงิด นึกตำหนิเขาในใจ แต่เมื่อดิฉันหันมาบอกตัวเองว่า “มองเขาเป็นครู ในอนาคตก็อย่าเผลอทำแบบเขา” น่าแปลกที่ความรู้สึกหงุดหงิดโกรธเคืองมันหายไปอย่างรวดเร็ว
เพราะฉะนั้นในวันที่คุณเพื่อนบ่นเรื่องโค้ช ดิฉันก็เลยบอกเขาไปว่า “ฮันเมนเคียวฉิ… คิดเสียว่าเขาเป็นครูด้านตรงข้ามนะ” คุณเพื่อนหยุดบ่นไปทันที
ดิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหยุดเพราะซึ้งกับแนวคิดแบบญี่ปุ่น หรือหยุดเพราะงงกับความหมายของคำนี้เหมือนกันนะคะ…
ภาพประกอบ: Thiencharas.w