จบลงไปกับคราบน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ สำหรับแชมป์เอเชียสมัยที่ 3 และเป็นแชมป์ระดับเอเชียในรอบ 10 ปีของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
ก่อนสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายที่สนามชาติชายฮอลล์ เชื่อว่าแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยหลายคนอาจไม่คาดคิดว่า แชมป์สมัยที่ 3 จะมาถึงมือทีมไทยในคืนวานนี้ (6 กันยายน)
เพราะหากบิดเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปในเมื่อ 2-3 เดือนก่อนหน้า ในศึกเนชันลีกส์ หรือ VNL 2023 ฟอร์มการเล่นในภาพรวมของทีมนักตบสาวไทยอยู่ในจุดที่ไม่สู้ดีนัก
ผลงานในรอบเก็บคะแนนของพวกเธอดิ่งลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับผลงานสร้างชื่อที่ฝากไว้ใน VNL 2022 ซึ่งปีนั้นพวกเธอสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก
ในปี 2023 พวกเธอจบการแข่งรอบเก็บคะแนนที่อันดับ 14 กับผลงาน ชนะ 2 แพ้ 10 มี 8 แต้ม และโดยเฉพาะสนามสุดท้ายที่ได้เล่นในอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ทีมลูกยางไทยไม่สามารถเก็บเซ็ตจากคู่แข่งทั้ง 4 ทีมมาได้แม้แต่เซ็ตเดียว
และแน่นอนว่า เมื่อผลงานในทัวร์นาเมนต์ระดับโลกจบไม่สวยแบบนี้ สิ่งแรกที่ทีมสาวไทยชุดนี้ต้องเผชิญคือ ความคิดเห็นจากบรรดาโค้ชคีย์บอร์ดจำนวนไม่น้อยที่ออกมาแสดงความเห็นถึงผลงานในเชิงลบในโลกออนไลน์ ซึ่งบางคอมเมนต์ (ส่วนน้อย) นั้นเข้าขั้น Toxic หรือเกินขอบเขตเรื่องการวิจารณ์ผลงาน จนมันเลยเถิดไปกระแทกความรู้สึกและจิตใจของนักกีฬา รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอีกไม่น้อย
ยังไม่รวมกับข่าวดราม่าที่นักกีฬาถูกโยงไปล้อกับประเด็นทางการเมือง ทั้งที่ภาพนั้นมันไม่ควรแม้แต่จะเป็นประเด็นให้นักกีฬาต้องมานั่งอธิบายเสียด้วยซ้ำ
ความกดดันจากเสียงวิจารณ์ที่นักกีฬาได้รับยังคงมีให้เห็นในรายการ SEA V.League 2023 โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้าคู่แข่งอย่างเวียดนาม ที่พัฒนาฝีมือขึ้นเป็นมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
แม้ทีมสาวไทยจะตบชนะคู่ปรับร่วมอาเซียนอย่างเวียดนามในรายการนี้ได้ทั้งขาไป-ขากลับ แต่เสียงวิจารณ์เรื่องผลงานก็ยังมีให้เห็นอยู่ประปราย ซึ่งบางคอมเมนต์บอกว่า “แค่เสีย 1 เซ็ตก็เท่ากับแพ้” มันถึงขนาดนั้นเลยหรือ?
และเมื่อศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 มาถึง ซึ่งรอบนี้กลับมาจัดที่โคราชบ้านเรา
ทีมลูกยางของไทยทำผลงานดี ทุบคู่แข่งเปิดทางเข้ารอบรองชนะเลิศได้ 8 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งถือว่ามาตามนัด
ในรอบรองฯ ทีมไทยต้องดวลกับทีมที่เล่นบอลรับได้เหนียวแน่นมากๆ อย่าง ‘ญี่ปุ่น’ และเป็นแชมป์ 2 ครั้งหลังสุด
แมตช์นี้ทีมไทยเล่นได้ดีมากๆ แม้จะมีช่วงที่โดนญี่ปุ่นชิงออกนำไปก่อน 2-1 เซ็ต แต่พวกเธอยังมีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ ไล่หวดขึ้นมาจนตีเสมอเป็น 2-2 และในเซ็ตตัดสิน ทั้ง 2 ทีมเล่นทำคะแนนเบียดกันแบบแต้มต่อแต้ม แต่ภาพรวมเป็นทีมสาวไทยที่เหนือกว่า เอาชนะไปแบบสุดมัน 3-2 เซ็ต
หลังจบเกมนี้ พรพรรณ เกิดปราชญ์ มือเซ็ตคนเก่งของไทยเปิดใจยอมรับทั้งน้ำตาว่า เกมนี้ (หรืออาจจะเกมก่อนหน้านี้ด้วย) พวกเธอไม่ได้แค่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งในสนาม หากแต่เป็นแรงกดดันที่ติดมาพร้อมคำวิจารณ์ที่สาวๆ ต้องแบกรับเอาไว้ตลอดทัวร์นาเมนต์
และพวกเธอสามารถปลดล็อก โยนแรงกดดันที่อยู่บนบ่าออกไปได้หลังจบเกมในรอบนี้
Final Round!!
เกมนัดชิงชนะเลิศเดินทางมาถึง และคู่แข่งในรอบนี้ไม่ใช่ทีมอื่นไกล นั่นก็คือ ทีมชาติจีน ดีกรีแชมป์เอเชีย 13 สมัย และอันดับ 5 ของโลก
เปิดฉากการแข่งขัน ทีมไทยที่สลัดแรงกดดันจากเมื่อวานออกจากออก กลับมาลงสนามด้วยความมั่นใจที่ล้นเปี่ยม ที่ต้องบอกตามตรงว่า อารมณ์นี้มันต่างจากการแข่งขันครั้งก่อนๆ มาก และด้วยพลังใจที่ดีกว่าก็ทำให้พวกเธอปิดเซ็ตแรกไปได้ 25-21
ทว่าในเซ็ตที่ 2 จีนกลับมาลงสนามด้วยการเล่นที่นิ่งและเด็ดขาดขึ้นกว่าเดิม แม้มีช่วงที่โดนทีมไทยทุบห่าง 5-6 แต้ม แต่ยอดสาวแดนมังกรกลับมาไล่ทำได้จี้ในช่วงท้ายเซ็ต และปิดเซ็ต 2 ไปได้ชนิดที่แฟนๆ พากันเสียดาย
ถึงตรงนี้ไม่เกี่ยวแล้วว่าจีนจะส่งผู้เล่นชุดไหนมาลงสนาม เพราะสาวจีนทำให้เห็นแล้วว่าพวกเธอของจริง และพร้อมสู้กับทีมชาติไทยที่ส่งชุดใหญ่มาต่อกรได้สนุก และเมื่อจบการแข่งขันในเซ็ตที่ 3-4 ทั้งไทยและจีนเล่นกันจนเสมอกัน 2-2 เซ็ต ต้องไปลุ้นถึงฎีกาตัดสินเกมนี้
ในเซ็ตตัดสิน อาจมีช่วงที่บีบหัวใจแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยเป็นพักๆ กับช่วงที่จีนได้โอกาสนำ 2 แต้มในช่วงต้น
แต่อย่างที่บอกครับ แมตช์นี้มันมีอารมณ์และพลังงานบางอย่างที่แตกต่างจากการแข่งขันของทีมไทยนัดก่อนๆ เพราะทุกครั้งที่จีนพยายามเล่นเกมรุกที่หลากหลายเพื่อทำแต้มทิ้งห่างให้มากที่สุด ก็ยังไม่วายโดนทีมไทยที่ใจนิ่งและเล่นอย่างมีสมาธิคอยกระชากขาไม่ให้จีนทำแต้มทิ้งห่างไปไกล จนต้องไปเล่นแต้มเท่ากันหลังคะแนนที่ 10
การแข่งหลังจากนั้นผมนิยามว่า ‘การดวลหมัด’ ใครพลาดก่อนโดนน็อก! ท่ามกลางความระทึกที่ทวีคูณสุดๆ (หลายคนน่าจะสูดยาดมจนหมดหลอด 😁)
ขณะที่เล่นชิงคะแนนที่ 15 จังหวะที่พิมพิชยาเหมือนจะตีบอลหลุดออกแดนหลัง และส่อจะเสียแต้มสำคัญนี้ไป ทว่า อู๋เมิงเจี๋ย ที่เล่นได้เด่นตลอดทัวร์ กลับพลาดไปทำฟาวล์ตาข่ายในจังหวะขึ้นบล็อก ส่งแต้มมาเป็นของไทย
และในคะแนนที่ 16 พิมพิชยาได้ไปเสิร์ฟในคะแนนสำคัญ เธอจัดการตีลูกวอลเลย์บอลไปประหนึ่งโยนแรงกดดันคืนไปให้ฝั่งจีน และเป็น อู๋เมิงเจี๋ย รับบอลแรกได้ไม่ดี ทำให้ลิเบอโรต้องอันเดอร์แก้คืนมาให้ อู๋เมิงเจี๋ย ได้ตีแก้จังหวะเพื่อต่อลมหายใจให้ทีมยังอยู่ในเกม
และภาพสุดท้ายของเกมก็มาถึง เมื่อ อู๋เมิงเจี๋ย ตีบอลได้ไม่เต็มมือ ทำให้บอลไม่ข้ามเน็ต ส่งให้ทีมชาติไทยเข้าวินกลายเป็นแชมป์ประจำปี 2023 ไปอย่างสวยงาม
ภาพหลังจากนั้นคือ นักกีฬาวิ่งเจ้าสวมกอดกันกลมเกลียวอยู่กลางสนาม พร้อมน้ำตาแห่งความดีใจ และเสียงเฮที่ดังกึกก้องสนามชาติชายฮอลล์ ผมเชื่อว่าถ้าใครได้ตามเชียร์พวกเธอมาถึงตอนนี้ คุณอาจจะเผลอเสียน้ำตาไปกับทีมนักกีฬาโดยไม่รู้ตัว 😭
แชมป์เอเชียหนนี้ คือแชมป์ในรอบ 10 ปี โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2013 ที่ ณ เวลานั้น 4 ผู้เล่นกำลังหลักในชุดปัจจุบันอย่าง ทัดดาว นึกแจ้ง, พรพรรณ เกิดปราชญ์, ปิยะนุช แป้นน้อย และ อัจฉราพร คงยศ ยังเป็นเพียงนักตบดาวรุ่งเท่านั้น
พูดกันตามตรง แชมป์นี้มีความหมายต่อความรู้สึกของนักวอลเลย์บอลสาวชุดนี้เป็นอย่างมาก
เพราะกว่าจะได้มาครอบครอง มันไม่ใช่แค่เรื่องคู่ต่อสู้ในสนามที่ต้องเผชิญ แต่ยังต้องฟาดฟันกับดราม่า-เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ถาโถมใส่พวกเธออยู่ข้างนอกสนามในห้วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนั้นยังเป็นแชมป์ที่เหล่าแก๊ง ‘New Gen’ คว้ามาได้ด้วยฝีมือของพวกเธอเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธอฝันใฝ่มาเสมอ
และสำคัญที่สุด พวกเธอได้สร้างรอยยิ้มและความสุขไว้บนใบหน้าของคนไทยนับล้านชีวิตที่ติดตามส่งแรงใจให้พวกเธออยู่ห่างๆ
สุดท้ายนี้ ผมขออนุญาตยกคำพูดของ บุ๋มบิ๋ม-ชัชชุอร โมกศรี ส่งไปถึงบรรดาโค้ชคีย์บอร์ดที่คอมเมนต์ไม่สร้างสรรค์ และคอยไล่จิกกัดความสำเร็จของทีมชาติไทยครั้งนี้ ว่าชนะได้เพราะทีมอื่นไม่ส่งผู้เล่นชุดใหญ่มา
“ใครจะมองว่าทีมชาติอื่นจะส่งชุด A-B-C อะไรมาก็ตาม แต่สำหรับเราแชมป์ก็คือแชมป์ค่ะ”
ตามที่บุ๋มบิ๋มบอกเลยครับ แชมป์ก็คือแชมป์!!
ถ้าใครอึดอัดกับความสำเร็จนี้ ก็กรี๊ดสิครับ กรี๊ดเลย กรี๊ด 😏
