×

‘วิธีรับมือภาวะหัวใจสลาย’ สกิลสุดท้ายปลดล็อกชีวิต รอรี แม็คอิลรอย

16.04.2025
  • LOADING...

“คนอื่นไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน แต่เขากลับมาได้ และมันดีกว่าสำหรับเขาที่เกิดขึ้นแบบนี้เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่แท้จริงที่จะกลับมาจากสิ่งที่เรียกว่าโศกนาฏกรรม มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์”

 

นี่คือคำชื่นชมจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาที่ฝากถึง รอรี แม็คอิลรอย ซึ่งเคยร่วมเล่นกอล์ฟด้วยกันในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นหนึ่งในเสียงที่ร่วมแสดงความยินดีต่อเจ้าของเสื้อ “กรีนแจ็กเก็ต”​ คนล่าสุด แต่ในเวลาเดียวกันมันก็สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่โปรกอล์ฟวัย 35 ปีชาวไอร์แลนด์เหนือต้องเผชิญ

 

ไม่ใช่แค่เฉพาะในระหว่างการแข่งขันรายการ “เดอะ มาสเตอร์” สนามออกัสตา ที่เพิ่งจบลงไปแต่รวมถึงตลอดชีวิตของเขาด้วย

 

แม็คอิลรอยได้เรียนรู้ทักษะสำคัญที่กลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายช่วยให้ปลดล็อกชีวิตพิชิตสิ่งที่เรียกว่า Career Grand Slam 

 

ทักษะที่เรียกว่าการรับมือกับความผิดหวังในช่วงหัวใจสลาย 

 

“ณ จุดหนึ่งของชีวิต บางคนจะไม่อยากที่จะตกหลุมรักอีกครั้งเพราะเขาไม่อยากจะอกหัก” โปรอันดับ 2 เปรียบเปรยให้เห็นภาพรางๆ ของความรู้สึกในช่วงการแถลงข่าวก่อนทัวร์นาเมนต์เดอะ มาสเตอร์ จะเริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว

 

“โดยสัญชาตญาณของมนุษย์แล้ว เราจะเหนี่ยวรั้งตัวเองไว้ในบางครั้งเพราะความกลัวที่จะเจ็บปวด ไม่ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่มีสติ หรือการตัดสินใจโดยจิตสำนึกก็ตาม”

 

จริง – การหวาดกลัวต่อความรู้สึกเจ็บปวดของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแผกหรือแปลกเปลี่ยน – ไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบช่วงเวลาหรือความรู้สึกนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะน้อมรับวันเวลาที่ฟ้าเป็นสีเทาและโลกของเราเหมือนไม่ได้เป็นโลกของเราอีกเลย

 

นักกีฬาเองก็เช่นกัน การอกหักผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้เป็นมืออาชีพที่มีเรื่องของการปรับเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมเผชิญหน้ากับธรรมชาติของเกมกีฬา ที่ไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะไปตลอด แต่ในทางกลับกันการเป็นผู้แพ้และผิดหวังตลอดก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย

 

สำหรับ รอรี แม็คอิลรอย ชีวิตของเขานั้นเคยเหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย

 

จากโปรกอล์ฟคนหนุ่มที่มาแรงที่สุด พิชิตรายการระดับแกรนด์สแลมอย่าง ยูเอสโอเพน, ดิโอเพน และยูเอส พีจีเอ แชมเปียนชิปอีก 2 สมัยได้ตั้งแต่ปี 2014 ในวัยเพียง 24 ปีซึ่งมีเพียงแค่ แจ็ค นิคลอส และ ไทเกอร์ วูดส์ เท่านั้นที่เคยทำได้ในวัยเท่านี้ และเหลือเพียงรายการเดียวอย่างเดอะ มาสเตอร์ ที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้พิชิตรายการระดับเมเจอร์ครบทุกรายการ

 

ไม่มีใครคิดในเวลานั้นว่าโปรกอล์ฟไอริชจะต้องรอคอยสิ่งที่เรียกว่า Career Grand Slam อีกนานถึง 11 ปี

 

 

คำว่ารอคอย ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ความอดทน

 

แต่มันหมายถึงความผิดหวังมากมายด้วย และนั่นคือเหตุผลที่แม็คอิลรอยกล่าวเปรียบเทียบกับเรื่องของคนที่มีประสบการณ์ชีวิตมามากพอจะไม่อยากจะตกหลุมรักใครอีก

 

อย่างไรก็ดีนั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่พร้อมที่จะตกหลุมรักใคร

 

โดยเฉพาะหากใครคนนั้นควรค่ามากพอ เหมือนเช่นเสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวของผู้พิชิตเดอะ มาสเตอร์

 

“แต่ผมคิดว่าเมื่อเราเคยผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว เมื่อเราผ่านช่วงเวลาของสิ่งที่ผมขอเรียกว่าการหัวใจสลาย เราจะไปสู่จุดที่เราเริ่มจดจำความรู้สึกนั้นได้” แม็คอิลรอยกล่าวต่อ

 

“เราจะตื่นเช้ามาในวันใหม่และพบว่า ชีวิตก็ดำเนินต่อไป มันก็ไม่แย่อย่างที่คิดสักหน่อย”

 

คำพูดนี้คือสิ่งที่เป็น “หัวใจ” ที่ทำให้โปรกอล์ฟผมสีดอกเลากลับมาค้นพบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

 

ในวันที่เขาได้แสดงให้โลกทั้งใบได้เห็นว่าหัวใจของชายคนนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน

 

ย้อนกลับไปในการแข่งขันเดอะ มาสเตอร์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นหนึ่งในปีที่การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด

 

ผ่านมาถึงการแข่งวันที่ 4 แม็คอิลรอยต้องเจอกับสภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการอกหักอีกครั้ง เริ่มจากการปล่อยให้ บริสัน เดอชอมโบ โปรคู่ปรับอันดับหนึ่งพลิกสถานการณ์จากตามหลังกลับมานำได้หลังการแข่งเริ่มเพียงแค่ 2 หลุมแรก

 

แต่ความดิ่งของอารมณ์นั้นไม่เท่ากับการที่อุตส่าห์พลิกสถานการณ์กลับมาได้แล้วและเหลืออีกเพียงแค่ 6 หลุมเท่านั้น แต่แม็คอิลรอยกลับทำพลาดจนเหมือนจะปล่อยโอกาสที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาให้หลุดลอยไปอีกครั้ง

 

หากโอกาสนั้นหลุดลอย ไม่เพียงแต่ความหวังจะหลุดลุ่ย

 

มันอาจจะกลายเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมของชีวิตที่แม้จะไม่มีใครตาย แต่แม็คอิลรอยและแฟนๆ ของเขาอีกมากมายทั่วโลกจะเหมือนตายทั้งเป็น เพราะตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ประเภท “Near misses”

 

ได้แค่เข้าใกล้ แต่ไม่เคยได้สัมผัสเกียรติยศสุดท้ายจริงๆ

 

แต่สถานการณ์นี้เองที่ทำให้แม็คอิลรอยได้เรียนรู้สกิลสำคัญที่ช่วยปลดล็อกชีวิตตัวเองได้

 

สกิลที่เรียกว่า ‘วิธีการรับมือกับภาวะหัวใจสลาย’

 

 

ภาวะหัวใจสลาย (Heartbreak) ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ผ่านความผิดหวังมาซ้ำๆ

 

มียอดนักกีฬาบนโลกใบนี้จำนวนมากไม่สามารถรับกับภาวะนี้ได้ และหลายคนที่ยังเจ็บปวดกับสิ่งเหล่านี้แม้จะเลิกเล่นกีฬาอาชีพไปแล้ว

 

แต่สำหรับการแข่งเดอะ มาสเตอร์ปีนี้ แม็คอิลรอยได้เรียนรู้และเตรียมหัวใจของตัวเองมาก่อน โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขาคือนักจิตวิทยากีฬาอย่าง บ็อบ โรเทลลา

 

โรเทลลาเป็นนักจิตวิทยาที่ทำงานร่วมกับนักกีฬามาหลายคน หนึ่งในนั้นคือ เปแดร็ก แฮร์ริงตัน โปรกอล์ฟชาวไอริชอีกหนึ่งคนที่เขาได้ดูแลเกี่ยวกับเรื่องของการเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ซึ่งผลตอบแทนที่ได้สำหรับแฮร์ริงตันคือการคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้ถึง 3 รายการ

 

กับแม็คอิลรอยเองพวกเขารู้จักกันมาเนิ่นนานถึง 15 ปี ตั้งแต่ปี 2010 เลยทีเดียว เพียงแต่ทุกอย่างมันพิเศษมากขึ้นในปีนี้เมื่อโปรวัย 35 ปีต้องการที่จะพิชิตเดอะ มาสเตอร์ ให้ได้ในความพยายามครั้งที่ 11 ของเขาที่จะพิชิตเมเจอร์ครบทุกรายการ

 

โดยที่ในระหว่างการแข่งขันนั้น มีสถานการณ์ที่แม็คอิลรอยได้รับคำปรึกษาจากโรเทลลาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหลังจบการแข่งขันวันแรกเมื่อวันพฤหัสบดี ที่เขาเกิดหลุดฟอร์มใน 4 หลุมสุดท้ายจนทำให้เจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่ออกัสตา เขาจะทิ้งมันไว้ที่นี่”

 

แต่ในการพูดคุยกับโรเทลลาช่วยให้เขากลับมามีสมาธิอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่นักจิตวิทยาบอกนั้นไม่ได้มีอะไรยากหรือซับซ้อน

 

“อย่าพยายามกดดันตัวเองมากเกินไปและเร็วเกินไปในการที่จะพยายามแก้ไขสิ่งต่างๆ” 

 

เมื่อจบวันที่ 2 เขากลับมาไล่ตามผู้นำอย่างจัสติน โรส แค่ 2 สโตรก พอเข้าวันที่ 3 โรเทลลาได้บอกกับแม็คอิลรอยว่าสิ่งสำคัญนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาไล่ตามผู้นำได้ทันหรือไม่ “เล่นไปปล่อยให้สกอร์เป็นไปตามธรรมชาติ” และนั่นทำให้เขากลับมาเป็นผู้นำเมื่อจบวันที่ 3 

 

แต่ในการแข่งขันวันที่ 4 ไม่มีอะไรที่โรเทลลาจะช่วยแม็คอิลรอยได้แล้วในสนาม ทุกอย่างอยู่ในมือของเขาเอง

 

ในสถานการณ์ที่หัวใจถูกบีบรัดอย่างที่สุด แม็คอิลรอยได้แสดงให้เห็นว่าทุกความเจ็บปวดและบาดแผลในชีวิตที่ผ่านมา เขาได้เรียนรู้และตกผลึกทุกอย่างแล้ว

 

แม็คอิลรอยคนนี้เติบโตขึ้น สงบนิ่งขึ้น และสำคัญที่สุดคืออดทนมากขึ้น

 

และนั่นทำให้เขาพลิกสถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะกลับมาเอาชนะโรส – ผู้ที่คุ้นชินกับการอกหักอีกคน – ได้ในการแข่งขันแบบซัดเดนเดธ

 

“บางทีมันอาจจะเป็นหนึ่งในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุด เมื่อคิดถึงความกดดันมหาศาลที่เขาเผชิญ”

 

“สิ่งที่รอรีควรจะภูมิใจให้มากคือการที่เขาได้ค้นพบแล้วว่าที่แท้หัวใจของเขานั้นแกร่งแค่ไหน”

 

 

จากคนที่พ่ายแพ้ต่อแรงกดดันจนพลาดแชมป์แบบไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นในเดอะ มาสเตอร์ เมื่อปี 2011 ที่โยนทุกอย่างทิ้งด้วยตัวเองทั้งที่ได้เปรียบถึง 4 สโตรก, พ่ายแพ้ต่อเดอชอมโบในการแข่งขันยูเอสโอเพนเมื่อปีกลายที่เขายอมรับด้วยตัวเองว่า “เสียสมาธิ” จนต้องเก็บตัวเงียบเป็นเวลานานนับเดือนเพื่อทำใจ

 

“มีบางคนที่เจอประสบการณ์แบบนี้และตัดสินใจว่าจะไม่เอาอีกแล้ว เพราะมันเจ็บปวดเกินไป” โรเทลลาบอก “แต่รอรีบอกว่าเขาอยากจะคว้าแชมป์เมเจอร์ให้ได้อีกและเขารับมือกับความพ่ายแพ้ได้”

 

สิ่งเหล่านี้มันฟังดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วทำได้ยากยิ่ง

 

แต่ถ้าหากรู้จักที่จะรักความเจ็บปวดและความพ่ายแพ้ ทำใจน้อมรับมัน อดทนจนกว่าจะถึงเช้าวันใหม่ได้ 

 

นั่นหมายถึงเรายังมีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะในวันพรุ่งนี้เสมอ

 

นี่คือสิ่งที่ รอรี แม็คอิลรอย ได้บอกกับทุกคนผ่านเสียงคำราม น้ำตา และรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

 

เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าพิชิตเมเจอร์ครบทุกรายการ ก็คือการชนะหัวใจของตัวเอง

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising