เปิดตัวไปอย่างสวยงามสำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ Bitter Sweet Hellของช่อง MBC ด้วยเรตติ้งถึง 6% จากเนื้อหาสุดเข้มข้น และการคว้านักแสดงสายดราม่าทั้ง คิมฮีซอน และ อีฮเยยอง มารับบทแม่ผัวลูกสะใภ้ที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร แต่ต้องมาเจอกับสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอทั้งคู่ต้องร่วมมือปกป้องครอบครัว ว่าแต่ว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวนี้น่ารักษาไว้สักแค่ไหน?
Bitter Sweet Hellคือเรื่องราวของ โนยองวอน หรือ หมอโน (คิมฮีซอน) จิตแพทย์ชื่อดังและวิทยากรทางรายการทีวี ทำให้เธอมีชีวิตดังเซเลบริตี้ ส่วนชีวิตส่วนตัวก็เข้าขั้นสมบูรณ์แบบ เธอแต่งงานกับ ชเวแจจิน หรือ หมอชเว (คิมนัมฮี) ศัลยแพทย์แถวหน้า และยังเป็นลูกชายของอดีตอัยการผู้ทรงอิทธิพล ชเวโกมยอน (ควอนแฮฮโย) กับ ฮงซาคัง (อีฮเยยอง) นักเขียนนิยายแนวสืบสวนลึกลับชื่อดัง
แม้ในใจลึกๆ โนยองวอนจะรู้ดีว่าแม่สามีไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอสักเท่าไร แต่โดยรวมก็ถือว่ามีความสุขดี จนกระทั่งวันหนึ่ง อีเซนา (ยอนอู) ก้าวเข้ามาเป็นคนไข้ของเธอ ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่การได้รับพัสดุที่มีนกหัวขาดอยู่ด้านในพร้อมกับภาพครอบครัว จากนั้นก็มีคนปล่อยคลิปแฉว่าพ่อของเธอฆ่าตัวตาย ที่หนักไปกว่านั้นคือพ่อสามีที่ดูรักและเอ็นดูเธอเป็นพิเศษก็ถูกหินหล่นมาทับเสียชีวิตขณะออกกำลังกาย ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้โนยองวอนค้นพบคลิปเสียงว่าพ่อสามีผู้แสนดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตายของพ่อแท้ๆ ของเธอ
หลังจากนำเรื่องนี้ไปบอกแม่สามีก็ดูเหมือนฮงซาคังจะไม่ยินดียินร้าย และหยิบเรื่องครอบครัวขึ้นมาเป็นข้อต่อรอง ที่สำคัญนิยายที่เธอเขียนก็ดันมีฉากการตายที่คล้ายกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัว แถมสามีที่เคยดีก็เหมือนจะมีความลับบางอย่างซ่อนไว้ ในขณะที่บุคคลลึกลับก็ยังจ้องจะทำลายเธอไม่เลิก โนยองวอนจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร ต้องรอติดตาม
Bitter Sweet Hellอุทิศสองตอนแรกให้กับการปูพื้นฐานตัวตนของโนยองวอน พร้อมกับการเน้นย้ำว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังว่าด้วยประเด็นเรื่องครอบครัว ด้วยบทสนทนาที่เต็มไปด้วยคำคำนี้ ทั้งในมุมมองของโนยองวอนที่พยายามรักษาสมดุลทั้งเรื่องงานและการดูแลครอบครัว หรือในมุมมองของบุคคลน่าสงสัย อีเซนา ที่รู้สึกว่าคนที่ตัวเองรักไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่เหมาะสม และทิ้งคำถามเปิดประเด็นที่ว่า ‘คนในครอบครัวจำเป็นต้องรู้เรื่องราวของกันและกันหรือไม่’ ซึ่งน่าจะพอเดาได้ว่าภายใต้ฉากหน้าของครอบครัวสุขสันต์นั้นเต็มไปด้วยความลับ คำลวง และเหตุฆาตกรรมอำพรางที่รอการเฉลย
อีกส่วนคือมุมมองในประเด็นคุณค่าของครอบครัวอยู่ที่ตรงไหน โดยตัวละครโนยองวอนดูจะให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เป็นพิเศษ จากพื้นฐานที่พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่น และมีเพียงครอบครัวชเวโกมยอนและฮงซาคังโอบรับเธอเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ และกลายเป็นพ่อแม่สามีในอนาคต ซึ่งเหมือนเติมเต็มในส่วนที่ขาด ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ยังพอใจกับสถานะครอบครัวตัวอย่างที่สังคมมอบให้ แม้ในวันที่รู้ความจริงว่าผู้มีพระคุณมีส่วนทำให้พ่อแท้ๆ ต้องเสียชีวิต ก็ยังเลือกที่จะปกป้องครอบครัวนี้อยู่ดี
“การบอกว่าพ่อสามีตัวเองคือคนร้ายที่ทำให้พ่อเธอต้องฆ่าตัวตาย แล้วคิดว่าคนจะพูดถึงหมอโนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าอย่างไร ทำไมเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลนี้…ไม่สิ ทุกอย่างที่หมอโนได้ตอนนี้ ทำใจสละได้จริงๆ เหรอ” – ฮงซาคัง
ส่วนแม่สามีอย่างฮงซาคัง เธอเข้าใจสถานการณ์นี้ดี เพราะตัวเองก็กล้ำกลืนกับการรักษาคำว่าครอบครัวมาตลอด เพราะสามีเป็นคนเจ้าชู้มาตั้งแต่วัยหนุ่ม ในมุมมองของเธอนี่คือการรักษาภาพลักษณ์เพื่อหน้าที่การงานของเขา แต่ขณะเดียวกันมันก็รักษาภาพความสมบูรณ์แบบของเธอไปด้วยเหมือนกัน
ต้องยอมรับว่านักเขียน นัมจียอน (So I Married the Anti-Fan) ดีไซน์ตัวละครฮงซาคังออกมาได้อย่างน่าสนใจและน่าสงสัยตั้งแต่เปิดเรื่อง ด้วยคาแรกเตอร์เอาแน่เอานอนไม่ได้ เย่อหยิ่งตามประสาลูกสาวมหาเศรษฐีที่มีดีกว่าสามีแทบทุกอย่าง แต่ดันมาเจอลูกสะใภ้ที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาทั้งตัวเธอและลูกชาย ปฏิกิริยาของเธอต่อคนในครอบครัวจึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างไว้ตลอดเวลา ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ทั้งความน้อยเนื้อต่ำใจตามประสาผู้สูงวัย หรือแผนการสกัดดาวรุ่งลูกสะใภ้ที่คาดว่ากำลังจะเฉลยในอีพีถัดๆ ไป ยิ่งได้นักแสดงอย่างอีฮเยยองที่เคยฝากผลงานแซ่บๆใน Kill Heel ที่มาพร้อมบุคลิกที่ไม่น่าไว้ใจและดูร้ายตั้งแต่ระยะ 100 เมตร ยิ่งทำให้ตัวละครนี้น่าติดตาม
สำหรับตัวละครอื่นๆ การแคสต์เอาคิมฮีซอนผู้มีรูปลักษณ์และบุคลิกสวยแพงจนสร้างความประทับใจจากซีรีส์ Remarriage & Desires ก็ถือว่าเหมาะสมมาก โดยในเรื่องนี้เธอมีส่วนผสมของความสง่างามและความอบอุ่นจนอยากเอาใจช่วยให้เธอไขปริศนาในครอบครัวได้ ส่วนคิมนัมฮีกับการรับบทหมอชเวก็แสดงออกมาได้อย่างน่าสนใจ และหลายๆ ครั้งทำให้ย้อนนึกถึงรอยยิ้มอำมหิตที่เขาเคยแสดงใน Reborn Rich ส่วนนักร้องและนักแสดงวัยรุ่นอย่างยอนอูก็มาพร้อมกับความอันตราย น่าสงสัย และดูมีความซับซ้อนทางอารมณ์
อีกส่วนที่น่าชื่นชมคือการใช้แสงและควบคุมบรรยากาศให้มีความตึงเครียดตลอดเวลา และการใช้มุมมองภาพช่วยสื่อสารเรื่องราวของตัวละคร ทั้งภาพมุมกว้างเผยให้เห็นชีวิตเงียบสงบของตัวละคร ควบคู่ไปกับภาพระยะใกล้สื่อสารความขัดแย้งทางอารมณ์ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ
และส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับซีรีส์สายแซ่บแบบนี้คือเสื้อผ้าสุดหรูแต่เรียบง่าย สะท้อนบุคลิกตัวละครได้ดี ทั้งของหมอโนและแม่ผัวสุดแซ่บอย่างฮงซาคัง อีกส่วนที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือเพลงประกอบภาษาฝรั่งเศสแสนติดหู ไพเราะ แต่ก็ดูลึกลับไปพร้อมๆ กัน
โดยรวมแล้ว Bitter Sweet Hellคือซีรีส์ทรงดีที่น่าติดตาม เพียงแค่ 2 อีพีแรกก็วางหมากวางปมเอาไว้มากมาย และน่าจะเป็นซีรีส์ดราม่าครอบครัวที่แตกต่างออกไปด้วยการสำรวจจิตใจว่า เมื่อทุกอย่างที่เคยถูกมองข้ามไปในนามของครอบครัว จะสั่นคลอนหรือไม่หากความจริงที่ลึกซึ้งกว่าถูกเผยออกมา อย่างที่ตัวละครอีเซนาบอกเอาไว้ว่า
“มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่อให้รู้ความจริงแล้วก็ยังเข้าใจและยกโทษให้กันได้แค่พอเป็นครอบครัวจริงหรือคะ”
Bitter Sweet Hellรับชมได้ทาง Viu ทุกวันศุกร์และเสาร์ เวลา 22.00 น.