วันนี้ (20 พฤษภาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ว่า สิ่งที่น่ายินดีวันนี้คือสถานการณ์การติดเชื้อเริ่มที่จะลดลงตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนด้วย รวมไปถึงต้องขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดออกไป
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ในวันนี้ที่ประชุม ศบค. มีการปรับพื้นที่โซนสีเนื่องจากสถานการณ์หลายพื้นที่เริ่มดีขึ้น โดยสีเหลือง (พื้นที่เฝ้าระวังสูง) จาก 65 จังหวัดลดเหลือ 46 จังหวัด ส่วนสีเขียว (พื้นที่เฝ้าระวัง) เพิ่มเป็น 14 จังหวัด และสีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) จาก 12 จังหวัดเพิ่มเป็น 17 จังหวัด (มีจังหวัดอื่นดำเนินการได้บางพื้นที่ 12 จังหวัด)
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติในการเห็นชอบ ผ่อนคลายมาตรการด้านการท่องเที่ยว เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ โดยจะเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่รับฟังมาโดยตลอด ผ่านการดำเนินการพิจารณาร่วมกับมาตรการด้านสาธารณสุขด้วย เพราะหากจะผ่อนคลายให้มีการเปิด ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งผู้ให้บริการและนักท่องเที่ยว
โดย พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันมีการปรับมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศใหม่ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจำนวนคนที่เดินทางเข้าประเทศมีมากขึ้นในแต่ละวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางอากาศ ในส่วนของทางเรือและทางบกก็มีมาตรการรองงรับอยู่แล้ว ซึ่งจะได้มีการหารือตามสถานการณ์ต่อไป
ขณะที่วัคซีนโควิดยังมีเพียงพอ จึงขอความร่วมมือประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4 ให้ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องการเปิดโรงเรียนแบบ On-site มีการรายงานว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้อยู่
“รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ อย่างระมัดระวัง จึงขอให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาลด้วยว่า วันนี้ประเทศไทยถูกยกระดับให้เป็นประเทศต้นๆ ในโลกเรื่องการดูแลการแพร่ระบาดของโรคโควิด หลายอย่างก็ทำได้ดี และองค์การอนามัยโลกก็นำเรื่องความสำเร็จในการรับมือโรคระบาดของไทยไปศึกษาต่อ และวันนี้การท่องเที่ยวของไทยก็ได้รับการชื่นชมจากต่างประเทศ เพราะหากทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของเรามีมาตรการที่ดี และประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกันดี ฉีดวัคซีนให้ครบ ภาพรวมประเทศเราก็จะดีขึ้นไปกว่านี้” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อไปด้วยว่า เครื่องจักรสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศในด้านเศรษฐกิจคือการท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นและเติบโตอีกมากพอสมควร และจะทำให้รายได้ด้านการท่องเที่ยวนั้นดีขึ้น แต่ตอนนี้ยังเป็นไปได้ช้าเนื่องจากมีปัญหาซับซ้อน 3 ด้าน คือ มาตรการกีดกันทางการค้า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด และสถานการณ์ความขัดแย้งของต่างประเทศซึ่งเกี่ยวพันกันทั้งหมด เท่ากับรัฐบาลเจอปัญหา 3 ด้านอยู่ในตอนนี้ ซึ่งตนก็พยายามทำอย่างดีที่สุด ตัดสินใจบนพื้นฐานของความถูกต้องจากการหารือกับทุกฝ่าย