แซม อัลต์แมน ซีอีโอของ OpenAI โพสต์บน X ของตนเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 มกราคม) ตามเวลาประเทศไทย ว่า “เรา (OpenAI) กำลังขาดทุนกับแผน Pro Subscription เพราะมีคนใช้งานมากเกินกว่าที่เราคาดไว้”
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2024 OpenAI ประกาศเปิดตัวแพ็กเกจใหม่สำหรับ ChatGPT ที่มีชื่อว่า ‘ChatGPT Pro’ ซึ่งสนนราคามากถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7,000 บาทต่อเดือน โดย ChatGPT Pro เป็นแพ็กเกจที่อัปเกรดมากที่สุด ด้วยการเข้าถึงโมเดลที่หลากหลาย เช่น o1 Pro Mode ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ซับซ้อน และ Sora เครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI ที่ผู้ใช้ซึ่งยอมจ่าย 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน จะได้สิทธิ์ใช้งานเพิ่มขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- OpenAI ออกแพ็กเกจChatGPT Pro ราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือน พร้อมอัปเดตโมเดล Reasoning
- เปิดปมการเปลี่ยนผ่านของ OpenAI จากแล็บวิจัยสู่บริษัทเทคที่แสวงผลกำไร
ราคา 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน คือตัวเลขที่แซมเป็นคนเลือกเอง เพราะเขามองว่าราคาประมาณนี้น่าจะทำให้บริษัทสามารถทำเงินได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่าความต้องการใช้งาน ChatGPTจะมีสูงเกินกว่าที่เขาและ OpenAIพยากรณ์เอาไว้
TechCrunch รายงานว่าแม้ OpenAIจะสามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถพลิกมาทำกำไรได้ โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ OpenAIขาดทุนราว 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับค่าใช้จ่ายหลักที่บริษัทจำเป็นต้องใช้คือค่าพนักงาน ค่าเช่าสำนักงาน ค่าโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฝึก AI ซึ่งมีการรายงานตัวเลขจาก Y Combinator ว่า แค่ค่าพลังงานในการทำงานของChatGPT 3.5 ก็ต้องใช้เงินกว่า 7 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 24 ล้านบาทต่อ 1 วันแล้ว
นอกจากนี้ OpenAIยังระบุไว้ในจดหมายแถลงการณ์เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างขององค์กรที่กำลังมุ่งไปสู่การเป็นบริษัทที่แสวงหาผลกำไรว่า พวกเขา ‘ต้องการเงินทุนในจำนวนที่มากกว่าที่เคยคิดไว้’ ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกในการหาเงินเพิ่มก็มาจากการเพิ่มค่าบริการในปัจจุบัน
The New York Times รายงานว่าภายในอีก 5 ปี ราคาChatGPT Plus ที่ตอนนี้ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน อาจพุ่งขึ้นเป็น 44 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน
ภาพ: Thomas Trutschel / Getty Images
อ้างอิง: