ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ยังมีความท้าทาย ทั้งจากเรื่องผลกระทบของโรคโควิด-19 และการปรับตัวให้อยู่รอดได้ในยุค Disruption เศรษฐกิจจึงอยู่ภายใต้ ‘พายุใหญ่แห่งยุค’ หรือ ‘Perfect Storm’ ที่มีความรุนแรงและความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยอาจจะเจอกับความท้าทายมากกว่าหลายๆ ประเทศ เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย เช่น พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวในระดับสูง ปัญหาหนี้ครัวเรือน และการเข้าสู่สังคมสูงอายุ เป็นต้น
ผยงกล่าวว่า พายุใหญ่แต่ละครั้งจะทิ้งมรดกแห่งการเปลี่ยนแปลงไว้ ในคราวนี้มองว่ามี 3 ประเด็นสำคัญที่อาจกล่าวได้ว่าเป็น New Paradigm ที่เกิดขึ้น
ประเด็นแรกคือ การฟื้นตัวจะเป็นแบบ K-Shaped Recovery จะไม่ได้เป็นการกลับไปอยู่ที่จุดเดิม หรือ Status Quo โดย K-Shaped Recovery หมายถึงทิศทางการฟื้นตัวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มแรกที่สามารถกลับสู่จุดเดิมได้เร็ว และกลุ่มที่สองที่กลับมาได้ช้าหรือกลับมาไม่ได้
โดยในระยะสั้นเห็นได้ชัดว่าหลายกิจกรรมยังโดนจำกัดโดยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้ฟื้นตัวได้ยากและยังไม่รู้จุดสิ้นสุดของมาตรการ นอกจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเกิดเป็น New Normal ซึ่งธุรกิจที่เก็บเกี่ยวโอกาสได้ เช่น ธุรกิจแพลตฟอร์มจะเติบโตได้ดี ขณะที่มีธุรกิจอีกจำนวนมากที่ปรับตัวไม่ทัน
ประเด็นที่สองคือ แนวคิดทางนโยบายที่เปลี่ยนไปจากเดิม ธนาคารกลางและ Think Tank อย่าง IMF ออกมาบอกว่า สามารถใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้โดยที่ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อและปัญหาหนี้สาธารณะตามมามีค่อนข้างน้อย และไม่ต้องรีบถอนนโยบายเหมือนในอดีต สหรัฐฯ และยุโรปจึงมีแนวโน้มจะมีการใช้ทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่เข้มข้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในเบื้องต้นแนวคิดใหม่นี้อาจทำให้ตลาดการเงินคลายความกังวลในเรื่องหนี้สาธารณะ และลดโอกาสเกิดปัญหาหนี้ซ้อนปัญหาสาธารณสุขโดยไม่จำเป็น แต่ก็แลกมาด้วยการสั่งสมความเปราะบางในระยะยาวที่มากกว่าเดิม
ประเด็นที่สามคือ การจัดใหม่ของระบบทุนนิยม โดยโลกเสี่ยงที่จะแบ่งขั้ว หรือ Deglobalize ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะยังดำเนินต่อไป ขณะที่ระบบทุนนิยมจะโดนเรียกร้องให้ปรับตัวในหลายมิติ เช่น การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อระบบนิเวศมากขึ้น
รวมทั้งการให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในเชิงสังคมและเศรษฐกิจ เพราะนี่เป็นจุดอ่อนที่สำคัญของระบบทุนนิยมเดิม โดยเฉพาะการที่ Digital Disruption มักทำให้เกิด Winner และ Loser ในลักษณะ Winner Takes All และนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางสังคมที่ขยายกว้างขึ้น
ผยงกล่าวด้วยว่า โลกข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นยังไม่มีใครบอกได้ว่า New Paradigm ทั้งสามจะนำไปสู่รูปแบบการทำธุรกิจอย่างไร มีสูตรสำเร็จหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ธุรกิจต้องเดินไปข้างหน้าอย่างยืดหยุ่น และต้องกล้าทำในสิ่งใหม่ๆ โดยยึดหลักที่ว่า การลองผิดลองถูกนั้นจะช่วยให้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสในการหา The Right Solution ภายใต้ต้นทุนของการผิดพลาดที่ต่ำ เปรียบได้กับการใช้ Speed Boat เพื่อความคล่องตัว และก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ของการเปลี่ยนแปลง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล