วันนี้ (27 ตุลาคม) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การติดและแพร่เชื้อโควิดมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนในระดับคงที่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง และผู้ป่วยได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น การเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด จึงเป็นปัจจัยเอื้อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาประเทศได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง
แต่จากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล พบว่า ประชาชนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวใน 17 จังหวัด ร้อยละ 92.4 มีความกังวลกับการเปิดเมืองเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุด
- อันดับ 1 กังวลว่าจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ ร้อยละ 75.8
- อันดับ 2 ประชาชนการ์ดตกและไม่ป้องกันตนเอง ร้อยละ 49.7
- อันดับ 3 สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยวไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดร้อยละ 45.10
สำหรับสถานประกอบการ/กิจการที่ประชาชนกังวลว่าจะเป็นคลัสเตอร์ใหม่หลังจากเปิดเมืองเปิดประเทศมากที่สุด
- อันดับ 1 สถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึงร้อยละ 89.2
- อันดับ 2 ขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 43.1
- อันดับ 3 สถานที่ท่องเที่ยว ร้อยละ 39.8
โดยมาตรการที่ประชาชนคิดว่าควรเพิ่มเพื่อทำให้เชื่อมั่นว่าเปิดเมืองเปิดประเทศ แล้วจะปลอดภัยมากที่สุดคือ เร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนทั่วประเทศครบ 2 เข็ม ครอบคลุมทุกจังหวัด 70% ขึ้นไป ร้อยละ 72.53 รองลงมาคือ คุมเข้มการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ร้อยละ 60.58
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ภายหลังการเปิดเมืองเปิดประเทศ กรมอนามัยได้กำหนดให้มีการดำเนินงานเพื่อกำกับดูแลกิจการประเมิน ติดตาม และเฝ้าระวังสถานประกอบการต่างๆ เป็น 3 ส่วนหลักคือ
ส่วนที่ 1 Self Certification: ให้สถานประกอบการทุก Setting ลงทะเบียน ประเมินตนเองบนระบบ Thai Stop COVID Plus เพื่อยกระดับตามมาตรการ COVID Free Setting และให้ทุกสถานประกอบการติด E-Certificated ในจุดที่ผู้ใช้บริการเห็นเด่นชัด
ส่วนที่ 2 People Voice: ประชาชนสามารถประเมิน แนะนำ ติชม ร้องเรียน สถานประกอบการในพื้นที่ COVID Free Area/Zone ผ่านช่องทาง QR Code ใน E-Certificate, Website Thai Stop COVID Plus และ Facebook ‘ผู้พิทักษ์อนามัย (COVID Watch)’
ส่วนที่ 3 Active Inspection: จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมตรวจ กำกับ COVID Free Area/Zone ภาครัฐและภาคประชาชน ตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ กำกับมาตรการตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดทำ Checklist และเป้าหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลบน Thai Stop COVID Plus ให้คำแนะนำ ตักเตือน กิจการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (พ.ร.บ.การสาธารณสุข, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.สถานบริการ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)
“ทั้งนี้ การป้องกันตนเองหลังเปิดประเทศ ประชาชนและะนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ Universal Prevention เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ โดยควรเลือกไปสถานที่ที่มีสัญลักษณ์ CFS, SHA+ ขอความร่วมมือ แสดงการได้รับวัคซีนหรือผลการตรวจว่าไม่ติดเชื้อก่อนเข้าสถานที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตรในทุกสถานที่ หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังสถานที่แออัด หรือระบายอากาศไม่ดี และงดใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย (ถูกต้อง) ตลอดเวลา ทั้งขณะออกนอกที่พักและอยู่ในที่พักร่วมกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ไอ จาม หรือสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน หากสงสัยว่ามีความเสี่ยง หรือมีอาการ ควรงดออกจากที่พัก ตรวจตนเองด้วย ATK และปรึกษาสถานพยาบาลใกล้เคียง” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว