×

ราคาน้ำมันพุ่ง รับมติโอเปกพลัสคงกำลังการผลิต ที่ประชุมล้วนเห็นชอบ รอดูเศรษฐกิจฟื้น

05.03.2021
  • LOADING...

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแทบจะในทันที หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมัน หรือที่รวมเรียกว่า โอเปกพลัส ลงมติเห็นชอบให้คงกำลังการผลิตไว้เท่าเดิมที่ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จนถึงเดือนเมษายน โดยซาอุดิอาระเบียระบุชัดว่าสมัครใจตัดลดกำลังการผลิตวันละ 1 ล้านบาร์เรลต่อไปอีก 1 เดือน

 

แม้ว่าทางกลุ่มจะเห็นชอบให้คงระดับการผลิตในปัจจุบันออกไปจนถึงเดือนเมษายน แต่ก็ยินยอมให้รัสเซียและคาซัคสถานเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอยู่ที่ 130,000 บาร์เรล และ 20,000 บาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ เพื่อรองรับการบริโภคภายในประเทศที่ขยับเพิ่มขึ้น

 

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 5% โดยราคาน้ำมันดิบเบรนต์เพิ่มขึ้น 2.68 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.15% มาอยู่ที่ 66.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสในตลาดฟิวเจอร์ส ปรับเพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ หรือ 4% มาอยู่ที่ 63.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

มติของโอเปกพลัสครั้งนี้สวนทางความคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ออกมาแสดงความเห็นก่อนหน้านี้ว่า โอเปกพลัสน่าจะปรับนโยบายหันมาเพิ่มกำลังการผลิต หลังราคาน้ำมันในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในแดนบวกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเพราะความหวังเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มประเทศรายได้สูง และปริมาณซัพพลายน้ำมันที่มีจำกัด

 

แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะเป็นใจให้ปรับเพิ่มกำลังการผลิต แต่ซาอุดิอาระเบีย แกนนำสำคัญของกลุ่มโอเปก ก็ออกมาเตือนก่อนหน้าการประชุม สนับสนุนให้ชาติสมาชิกพิจารณาเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันให้รอบคอบ หากต้องการให้ตลาดน้ำมันฟื้นตัวกลับมาได้อย่างมั่นคง โดยนักวิเคราะห์เห็นว่า ซาอุดิอาระเบียน่าจะต้องการคงกำลังการผลิตไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เพื่อดึงให้ปริมาณน้ำมันในคลังสำรองปรับลดลงมาอยู่ในระดับเฉลี่ย 5 ปีของอุตสาหกรรม

 

ทั้งนี้ ปีที่แล้ว ที่ประชุมโอเปกพลัสเห็นชอบที่จะตัดลดกำลังการผลิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ก่อนที่จะลดปริมาณการตัดลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

ด้าน โมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก ย้ำชัดว่า ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันยังจำเป็นต้องดำเนินมาตรการการผลิตด้วยความระมัดระวัง เพราะสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พร้อมจะฉุดรั้งการขยายตัวเติบโตของเศรษฐกิจโลก และแม้ว่าจะมีวัคซีนโควิด-19 ออกมาแล้ว แต่กระจายการฉีดวัคซีนที่ยังกระจุกตัวในกลุ่มประเทศร่ำรวย ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกไม่เสมอภาคเท่าเทียมกัน

 

ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ต่อหลังทราบผลการประชุมครั้งนี้ว่า โอเปกพลัสน่าจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาที่ราว 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเมษายนนี้

 

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนี้ กลับสวนทางกับทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปิดตลาดปรับตัวร่วงลง โดยได้อานิสงส์จากการออกมาแสดงความเห็นในเชิงยอมรับเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)

 

โดยดัชนี S&P ปิดตลาดปรับตัวลดลง 1.3% มาอยู่ที่ 3,768.47 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ ลดลง 345.95 จุด หรือ 1.1% มาอยู่ที่ 30,924.14 และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ลดลง 2.1% มาอยู่ที่ 12,723.47 โดยหุ้นของเทสลาร่วงหนักสุดเกือบ 5%

 

ความเห็นของประธาน Fed ยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.5% โดยอยู่ที่ 1.541% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.306%

 

ทั้งนี้ พาวเวลล์กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ กลับมาเปิดเศรษฐกิจหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จะทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นชั่วคราว แต่ก็ยืนกรานว่าการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อดังกล่าว ยังไม่มีความรุนแรงเพียงพอที่จะทำให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X