นายพล เจียงไคเชก มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์จีนและไต้หวัน เพราะเคยเป็นผู้นำแดนมังกรนานกว่าสองทศวรรษ ก่อนจะไปตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติที่ไต้หวัน
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงในปี 1918 เกิดการเปลี่ยนแปลงระลอกแล้วระลอกเล่าในประเทศจีน โดยประเทศที่ชนะสงครามจัดการเจรจาสันติภาพขึ้นในเดือนมกราคม ปี 1919 ที่ปารีส รัฐบาลปักกิ่งส่งตัวแทนเข้าร่วมและยื่นข้อเสนอให้ยกเลิกสิทธิพิเศษของประเทศต่างๆ ในจีน แต่อิทธิพลของมหาอำนาจทำให้ข้อเรียกร้องตกไป และยังมีการยกสิทธิพิเศษในซานตงของเยอรมนีที่แพ้สงครามให้กับญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งกำลังเตรียมจะลงนามในสนธิสัญญานั้น ประชาชนและนักศึกษาชาวจีนในปักกิ่งจึงลุกขึ้นมาประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรง กลายเป็นที่มาของเหตุการณ์ขบวนการ 4 พฤษภาคม ซึ่งต่อมายืดเยื้อและแผ่ขยายเป็นการหยุดเรียนและหยุดงานกว่า 100 เมืองใน 20 มณฑลทั่วประเทศ มีนักศึกษาถูกจับกุมมากกว่า 900 ราย ท้ายที่สุดรัฐบาลปักกิ่งจึงยอมปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับกุม และลงเอยด้วยการไม่ลงนามในสัญญากับมหาอำนาจตามแรงกดดันของคนในชาติ
ขบวนการ 4 พฤษภาคม เป็นจุดเริ่มต้นของอิทธิพลทางความคิดใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นในแดนมังกร รวมทั้งลัทธิมาร์กซ์ หรือมาร์กซิสต์ จนนำไปสู่การจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีการประชุมครั้งแรกในปี 1921 ขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง โดย ดร.ซุนยัตเซ็น ที่ปกครองจีนอยู่ต้องปรับทิศทางตามกระแสการเมืองให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาเข้าร่วมด้วยได้ และด้วยความร่วมมือกับโซเวียต จีนจัดตั้งโรงเรียนทหารและการปกครองหวงผู่ เพื่อสร้างกองกำลังปฏิวัติจีน โดยมีเจียงไคเชกเป็นครูใหญ่
เจียงไคเชก สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยของญี่ปุ่น และกลับมาเป็นขุนศึกคนสนิทของซุนยัตเซ็น ก่อนที่จะมีบทบาทในฐานะผู้บัญชาการทหารปฏิวัติเพื่อปราบกบฏในภาคเหนือ และก้าวสู่การเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งหลังจากซุนยัตเซ็นเสียชีวิตในปี 1925 และกลายเป็นผู้นำของจีนระหว่างปี 1928-1949 ระหว่างนั้นเกิดกลุ่มต่อต้านขึ้นมามากมายเพื่อโค่นล้มการปกครองของพรรคก๊กมินตั๋ง เนื่องจากปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง กลุ่มที่สำคัญที่สุดคือพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยมีเหมาเจ๋อตุงเป็นแกนนำสำคัญ กลายเป็นศึกสงครามกลางเมืองสองระลอกระหว่างปี 1927-1937 และ 1946-1949
เมื่อแพ้สงครามกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐบาลเจียงไคเชกอพยพไปตั้งรัฐบาลจีนคณะชาติที่ไต้หวัน และได้รับเลือกเป็นผู้นำในปี 1950 ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกของไต้หวัน โดยรัฐบาลเจียงไคเชกคงสถานะของประเทศจีนในองค์การสหประชาชาติด้วยการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาจนถึงปี 1971 ก่อนที่จะถูกถอดออกจากสมาชิกภาพ เมื่อฝ่ายหลังหันไปสานสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาเป็นสมาชิกแทนในที่สุด