กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กลุ่มเสื้อเหลือง ที่ปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เปิดฉาก ‘ปฏิบัติการไทยคู่ฟ้า’ ด้วยการนำกำลังคนไปบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือ NBT ในช่วงเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม 2551 โดยพังประตูเข้าไป และอ้างว่าต้องการทวงคืนสื่อของรัฐที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง
จากนั้นยังได้บุกเข้ายึดสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง กระทั่งช่วงบ่ายกลุ่มพันธมิตรฯ ได้บุกเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลได้สำเร็จ โดยอ้างเหตุผลว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว จึงไม่ต้องมีการประชุมคณะรัฐมนตรีอีกต่อไป และจะใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ชุมนุมไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
การปักหลักชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2551 โดยในช่วงกลางดึกวันที่ 1 กันยายน กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้นัดชุมนุมกันที่สนามหลวง ก่อนจะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดันให้กลุ่มพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม กระทั่งเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บทั้งหมด 42 คน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาในวันที่ 9 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้สมัครสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากการจัดรายการโทรทัศน์ทำอาหาร ‘ชิมไปบ่นไป’ และ ‘ยกโขยง 6 โมงเช้า’ อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังคงไม่ยอมยุติการชุมนุม และปักหลักใช้พื้นที่ทำเนียบฯ ในการขับไล่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนถัดไปที่ได้รับการโหวตเลือกในสภา จนทำให้สมชายกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยได้เข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดครอง
ภาพ: Chumsak Kanoknan / Getty Images