ทุกวันศุกร์ที่ 2 ของเดือนธันวาคมในทุกๆ ปี ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันของหายได้คืน’ หรือ Lost & Found Day ที่ริเริ่มโดย แลนซ์ มอร์แกน นักการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในปี 2012 ก่อนจะกลายเป็นวันที่รู้จักในวงกว้างในเวลาต่อมา
มอร์แกนอธิบายความสำคัญของวันนี้ว่า เป็นวันที่จะคอยกระตุ้นเตือนให้คนทั่วไปหวนกลับไปนึกถึงสิ่งละอันพันละน้อยที่ทำหายไปโดยไม่รู้ตัว เพราะพวกมันไม่ควรถูกทิ้งไว้ในแผนก Lost & Found ตามสถานที่ต่างๆ โดยไร้คนเหลียวแล
ตามสถิติที่สำรวจโดย Pixie แอปพลิเคชันช่วยหาของหายใน iPhone ระบุว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้เวลากว่า 2 วันครึ่งในการค้นหาของที่ทำหายไป ส่วนของที่ผู้คนทำหายมากที่สุดคือรีโมตทีวี ตามมาด้วยโทรศัพท์มือถือ กุญแจรถ กุญแจบ้าน แว่นตา รวมทั้งรองเท้า ซึ่งแต่ละปีชาวอเมริกันต้องจ่ายเงินมากกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อซื้อของใหม่ทดแทนของเดิมที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไหนๆ ก็วนเวียนมาถึงวันของหายได้คืน ลองใช้โอกาสนี้นั่งนึกดูดีๆ ว่าช่วงที่ผ่านมาคุณทำอะไรหล่นหายไปบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ความรัก หรือคนบางคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วอยู่ๆ ก็หายไป ไม่แน่ว่าคุณอาจจะนึกออกก็ได้ว่าลืมสิ่งนั้นไว้ที่ไหน
อ้างอิง: