สถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐฯ รายงานว่าข้อตกลงขายธุรกิจ ARM ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชิปประมวลผลในเครือของ SoftBank ให้กับบริษัท NVIDIA มีเหตุให้ต้องถูกล้มเลิกไป เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ลุกขึ้นมาคัดค้าน เพราะเกรงว่าดีลดังกล่าวจะกระทบต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
แถลงการณ์ของ SoftBank ระบุว่า ข้อติดขัดด้านกฎระเบียบนับเป็นความท้าทายที่กั้นขวางไม่ให้ข้อตกลงครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ โดยมีแหล่งข่าววงในระบุว่า ทาง SoftBank จะได้รับเงินชดเชยจำนวน 1,250 ล้านดอลลาร์ จากการยกเลิกข้อเสนอในครั้งนี้ และมีแผนเตรียมนำบริษัท ARM เข้าสู่กระบวนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ภายในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2023 แทน
ทั้งนี้ หากไม่ล้มเลิกดีลมูลค่าราว 66,000 ล้านดอลลาร์ครั้งนี้ จะกลายเป็นข้อตกลงซื้อขายกิจการที่มีมูลค่ามากที่สุดในอุตสาหกรรมชิป และจะส่งผลให้ NVIDIA ควบคุมบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยีอันเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั่วโลก ทำให้นอกจากหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐที่ออกมาคัดค้านแล้ว บรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Qualcomm และ Microsoft ก็ออกมาคัดค้านการซื้อขายกิจการดังกล่าวเช่นกัน
รายงานระบุอีกว่า ผลจากการเจรจาทางธุรกิจที่ล้มเหลวยังส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารจาก ไซมอน ซีการ์ส ซีอีโอคนปัจจุบันของ ARM มาเป็น เรเน เฮาส์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญา มาเป็นผู้บริหารคนใหม่ โดยมองว่าประสบการณ์ชองเฮาส์จะช่วยผลักดันใน ARM เติบโตหลังจากที่ต้องหวนกลับเข้าไปในตลาด
ARM ถือเป็นบริษัทออกแบบชิปชั้นนำ ที่หลายบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน รวมถึง Apple นำมาใช้ โดยสำนักงานใหญ่ของ ARM ตั้งอยู่ในเคมบริดจ์ และได้รับการยอมรับในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีจากแดนผู้ดีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
อ้างอิง: