×

นวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง สิ่งที่ทำให้ ‘นู สกิน’ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ปรับตัวเพื่อรองรับโอกาสของอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
19.10.2021
  • LOADING...
นู สกิน

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • ‘สุขภาพและความงาม’ คือเมกะเทรนด์ที่ไม่เคยหล่นหายไปจากพฤติกรรมของผู้บริโภค สะท้อนได้จาก ‘อุตสาหกรรมความงามทั่วโลก’ ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปี 2021 อุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่ากว่า 17 ล้านล้านบาท และเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.75% ในอนาคต
  • การเติบโตในเรื่องของอุตสาหกรรมความงามและพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องของสุขภาพ เรียกได้ว่าสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ ‘นู สกิน’ จนทำให้ ‘นู สกิน’ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่ต้องจับตามองจากความโดดเด่นด้วย ‘นวัตกรรม’ โดยเฉพาะตัวสินค้าที่ขาย ‘ความแตกต่าง’  โดยนำเสนอสินค้าที่ขายในกลุ่มบิวตี้แกดเจ็ตที่มีหลากหลาย มาพร้อมงานวิจัยและรางวัลรองรับมากมาย
  • นอกจากนวัตกรรมที่โดดเด่นแล้ว นู สกินยังเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ได้ โดยไม่มีค่าสมัคร สามารถทำเป็น Dropship หรือ Affiliate Marketing ได้ และทำทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียได้ 100% พร้อมเครื่องมือสนับสนุนมากมายให้ใช้แบบฟรีๆ

ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ‘สุขภาพและความงาม’ คือเมกะเทรนด์ที่ไม่เคยหล่นหายไปจากพฤติกรรมของผู้บริโภค

 

เรื่องนี้สะท้อนได้จาก ‘อุตสาหกรรมความงามทั่วโลก’ ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปี 2021 อุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่ากว่า 5.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 17 ล้านล้านบาท 

 

และด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 4.75% ต่อปี ทำให้มีการประเมินว่า มูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.7 ล้านล้านบาท ในปี 2025 และเพิ่มเป็น 7.846 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26.1 ล้านล้านบาทในปี  2027

 

ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าสนใจคือ แนวคิดในวันนี้ได้เปลี่ยนไปเป็น ‘การป้องกันดีกว่าการรักษา’ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและระบบการแพทย์ที่ดีขึ้น ทำให้การดูแลสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย ส่งผลให้เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และมีเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ได้มากขึ้น

 

ทั้งการเติบโตในเรื่องของอุตสาหกรรมความงาม และพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องของสุขภาพ เรียกได้ว่าสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ ‘นู สกิน’

 

‘นู สกิน’ ผู้นำบิวตี้แกดเจ็ตยอดขายอันดับ 1 ของโลก 4 ปีซ้อน

สิ่งที่ทำให้ ‘นู สกิน’ กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่ต้องจับตามองมาจากความโดดเด่นด้วย ‘นวัตกรรม’ โดยเฉพาะตัวสินค้าที่ขาย ‘ความแตกต่าง’ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มบิวตี้แกดเจ็ตที่มีหลากหลาย มาพร้อมงานวิจัยและรางวัลรองรับมากมาย

 

เป็นสินค้าที่ตอบโจทย์การใช้ตลอดจนการทำธุรกิจของคนยุคใหม่อย่างมาก จนมียอดขายบิวตี้แกดเจ็ตเป็นอันดับ 1 ของโลกถึง 4 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2017-2020 จากการสำรวจโดย Euromonitor

 

 

ต้องบอกว่า ‘นวัตกรรม’ ที่โดดเด่นของ นู สกิน เกิดจากการลงทุนกว่า 152.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างแล็บวิจัยขนาดใหญ่ของตัวเองถึง 2 แห่ง ที่อเมริกาและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งการทุ่มลงทุนในด้านนวัตกรรมทำให้ นู สกิน ได้ครอบครองเทคโนโลยีทางด้านยีนของมนุษย์ มีเครื่องมือล้ำหน้าอย่าง ‘ยีนชิป (Gene Chip)’ ที่ใช้ในการศึกษาวิจัย จนปัจจุบันมีคลังข้อมูลยีนมากกว่า 330 ล้านยีน

 

 

ซึ่งนี่เองได้กลายเป็นรากฐานของเทคโนโลยี ‘เอจล็อค’ เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวของ นู สกิน ที่ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงามคุณภาพมากมาย จนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอจล็อค มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน

 

โมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ปัจจุบัน นู สกิน ดำเนินธุรกิจในเกือบ 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดแข็งในด้านความโปร่งใสของธุรกิจ 

 

ในปี 2020 มียอดขายทั่วโลกกว่า 2,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 7% จากปีก่อนหน้า ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านรหัสจากทั่วทุกมุมโลก โดยมีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง 

 

นอกจากนวัตกรรมที่โดดเด่นแล้ว ต้องบอกว่าโมเดลธุรกิจของ นู สกิน ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนู สกิน เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับแบรนด์ได้ง่ายมากๆ โดยไม่มีค่าสมัครและไม่ต้องลงทุน 

 

สามารถทำเป็น Dropship หรือ Affiliate Marketing ได้ และแผนการสร้างรายได้ก็ยืดหยุ่นสูง เหมาะกับทุกรูปแบบการทำงานของคนในยุคปัจจุบัน ที่สำคัญ สามารถทำทางออนไลน์และทางโซเชียลมีเดียได้ 100% พร้อมเครื่องมือสนับสนุนมากมายให้ใช้แบบฟรีๆ 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า วันนี้ช่องทางออนไลน์กลายมาเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักของผู้บริโภคไปแล้ว อันเป็นผลมาจากการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยมีการประเมินว่ายอดขายออนไลน์จะคิดเป็น 48% ของอุตสาหกรรมความงามทั่วโลกภายในปี 2023

 

 

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โมเดลธุรกิจของ นู สกิน จึงเข้ามาตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนี่เองได้เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่สำคัญและน้อยธุรกิจจะทำได้ นั่นคือสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศได้โดยง่าย เพราะ นู สกิน ลงทุนกับเทคโนโลยี คลาวด์ เพื่อรองรับระบบสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์แบบ 24 ชั่วโมง 

 

ตลอดจนระบบส่งสินค้าแบบ Fulfillment ที่ลิงก์กันทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้คือนิยามที่โดดเด่นของ นู สกิน หนึ่งในแบรนด์ที่ปรับตัวเพื่อรองรับโอกาสของอนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง

 

โดยปัจจุบันมีคนไทยที่เป็นพาร์ตเนอร์ธุรกิจกับ นู สกิน ประสบความสำเร็จในระดับสูง และขยายฐานลูกค้าไปในประเทศทั่วโลก และนี่คือตัวอย่างของความสำเร็จเหล่านี้

 

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นส่วนหนึ่งกับ ‘นู สกิน’ สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่ https://www.nuskin.com/th_TH/home.html 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising