วันนี้ (11 กรกฎาคม) การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศศึกวิมเบิลดันประเภทชายเดี่ยว โดยคู่ชิงในปีนี้เป็นการพบกันระหว่าง โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวเซอร์เบีย กับ มัตเตโอ แบร์เรตตินี มือ 7 ของรายการจากอิตาลี ที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรก
ในเซ็ตแรกเป็นแบร์เรตตินีที่เอาชนะไปได้ก่อน 7-6 (ไทเบรก 7-4) ขึ้นนำ 1-0 เซ็ต มาในเซ็ตที่ 2 ยอโควิชขึ้นนำไปก่อนถึง 4-0 เกม แต่ในช่วงท้ายเซ็ต ยอโควิชเริ่มพลาดหลายจังหวะ ตีเสียหลายครั้ง จนทำให้แบร์เรตตินีไล่ขึ้นมาเป็น 4-5 เกม กดดันให้ยอโควิชต้องรักษาเกมเสิร์ฟให้ได้เพื่อตีเสมอเป็น 1-1 เซ็ตให้ได้ สุดท้ายยอโควิชก็เก็บชัยชนะได้และเอาชนะในเซ็ตที่ 2 ไป 6-4 ตีเสมอขึ้นมาเป็น 1-1 เซ็ต ได้สำเร็จ
มาเซ็ตที่ 3 ยอโควิชรักษาฟอร์มเก็บชัยชนะได้ที่ 6-4 เกม พลิกสถานการณ์มาขึ้นนำไปก่อน 2-1 เซ็ต
เข้าสู่เซ็ตที่ 4 แบร์เรตตินีต่อสู้ได้อย่างสูสี จนกดดันให้ยอโควิชต้องงัดลูกทีเด็ดออกมาใช้ในหลายจังหวะ จนสุดท้ายยอโควิชขึ้นนำไปก่อน 5-3 เกม จ่อเป็นแชมป์แกรนด์สแลมสมัยที่ 20
สุดท้ายแม้ว่าแบร์เรตตินีจะไล่ทำคะแนนขึ้นมาจนถึง 40-40 เสมอกันจนดิวซ์ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่ยอโควิชจะได้ Advantage เป็นครั้งที่ 3 และเป็นแบร์เรตตินีที่ตีติดเน็ตเอง ทำให้ยอโควิชเอาชนะในเซ็ตที่ 4 ไปได้ 6-3 สกอร์รวม โนวัค ยอโควิช ชนะไป 3-1 เซ็ต 6-7 (ไทเบรก 4-7), 6-4 , 6-4 และ 6-3
โดยยอโควิชคว้าแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 6 และนับเป็นแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 20 ในอาชีพ ก้าวขึ้นไปเทียบเท่ากับ ราฟาเอล นาดาล และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุดของเทนนิสชายที่ 20 สมัยเท่ากัน
