จากเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งกรุงปารีสเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของชาวฝรั่งเศสและวงการสถาปัตยกรรมโลก ส่งผลให้มหาวิหารโกธิกซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสหลังนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
โดยเฉพาะโครงสร้างหลังคาที่ทำจากไม้โอ๊กตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พังเสียหายรุนแรง ยอดแหลมทรงโกธิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และบูรณะใหม่อีกครั้งในศตวรรษที่ 19 โดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง เออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก (Eugène Viollet-le-Duc) ถูกเผาไหม้และหักลงสู่พื้นเบื้องล่าง ไก่กังหันชี้ทิศทางลมบริเวณปลายยอดถูกหลอมละลายและได้รับความเสียหายบางส่วน
ในขณะที่โครงสร้างบางส่วนของหลังคาโค้งตกลงสู่ทางเดินภายในโบสถ์เบื้องล่าง หน้าต่างกระจกสีไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง แต่ทว่าอาจจะไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เนื่องจากได้รับความเสียหายและถูกทำลายบางส่วนจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งก่อนๆ
หอคอยคู่ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้ปลอดภัย ทีมนักดับเพลิงพยายามควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งโครงสร้างส่วนใหญ่ของหอคอยถูกสร้างจากหิน ส่งผลให้ระฆังทั้ง 10 ใบ รวมถึงระฆังใบที่ใหญ่ที่สุดอย่างเอ็มมานูเอลที่หนักถึง 13 ตันไม่ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ทีมนักดับเพลิงรวมถึงพลเมืองฝรั่งเศสต่างช่วยกันปกป้องศาสนวัตถุศักดิ์สิทธิ์ภายในมหาวิหารกันอย่างสุดความสามารถเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงส่งผลให้มงกุฎหนาม ตะปู ไม้กางเขนของพระเยซู รูปปั้นและภาพวาดของพระแม่มารี เกรทออร์แกน รวมถึงรูปปั้นการ์กอยล์ปลอดภัย แทบจะไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น
โดยทางการฝรั่งเศสจะประเมินความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศจะบูรณะซ่อมแซมมหาวิหารแห่งนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี พร้อมเน้นย้ำจะซ่อมแซมให้กลับมาสวยงามกว่าที่เคยเป็นมา ขณะนี้เงินบริจาคสมทบทุนซ่อมแซมทะลุ 700 ล้านยูโรแล้ว (ราว 2.52 หมื่นล้านบาท)
ภาพประกอบ: Thiencharas w.