×

เพื่อน(ไม่)สนิท แด่เพื่อนและผู้คนรอบข้างที่ได้โคจรมาเจอกัน

01.11.2023
  • LOADING...
เพื่อน(ไม่)สนิท

เพื่อน(ไม่)สนิท ภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องล่าสุดจากค่าย GDH และยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของ อัตต้า-อัตตา เหมวดี ผู้กำกับโฆษณาและมิวสิกวิดีโอให้กับศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น ฝากไว้กับดาว จากศิลปิน Whal & Dolph, 1% จากศิลปิน แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข, ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม จากศิลปิน อิ้งค์-วรันธร เปานิล ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับจาก ฉลาดเกมส์โกง (2017) และ One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ (2021) มาดูแลในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ร่วมกับ วัน-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ 

 

โดยอัตตาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากประสบการณ์จริง ในช่วงที่เขายังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และได้พบกับเพื่อนที่ไม่สนิทคนหนึ่งที่มาขอความช่วยเหลือจากเขาเพราะกำลังมีอาการป่วย ก่อนที่เพื่อนคนดังกล่าวจะเสียชีวิตอย่างกะทันหันในเวลาต่อมา และทำให้เขาเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ‘ถ้าเพื่อนคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันนี้คนคนนั้นจะเป็นอย่างไร’ 

 

นักเรียนชายชี้นิ้ว

 

จึงกลายเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่อง เพื่อน(ไม่)สนิท ว่าด้วยเรื่องราวของ เป้ (โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์) เด็กหนุ่มที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเก่าเพราะเหตุผลบางอย่าง และต้องย้ายมาเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนใหม่ในช่วงกลางเทอม จึงพาเขาให้มาพบกับ โจ (จั๊มพ์-พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ) เด็กหนุ่มอัธยาศัยดี ผู้เป็นที่รักของเพื่อนๆ ในโรงเรียน แต่ดูเหมือนว่านิสัยของทั้งคู่จะไม่ลงรอยกันเท่าไรนัก 

 

กระทั่งวันหนึ่งโจกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างกะทันหัน จึงทำให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนต่างโศกเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน เป้ที่ต้องหาทางสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ เขาจึงตัดสินใจหยิบเรื่องราวของโจมาทำเป็นภาพยนตร์สั้นส่งประกวดเพื่อใช้ในการเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องสอบ แต่ติดก็ตรงที่เขาทำภาพยนตร์ไม่เป็น เป้จึงต้องชักชวน โบเก้ (ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์) เพื่อนสนิทของโจ และแก๊งห้องโสตฯ มาทำภาพยนตร์สั้นร่วมกัน จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่ทั้งสุขและเศร้าของแก๊ง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ 

 

นักเรียนชายชูแขนกำหมัด 2 ข้าง

 

เพื่อน(ไม่)สนิท นับว่าเป็นภาพยนตร์จาก GDH อีกหนึ่งเรื่องที่สร้างความน่าสนใจแก่ผู้ชมได้ตั้งแต่เห็นตัวอย่าง เริ่มตั้งแต่การได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง บาส นัฐวุฒิ มาดูแลในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ และชื่อของสองนักแสดงนำอย่าง โทนี่-อันโทนี่ บุยเซอเรท์ และ ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ ที่เพิ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมไปเมื่อช่วงต้นปีกับภาพยนตร์เรื่อง เธอกับฉันกับฉัน รวมถึงการได้รับเลือกจากสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติให้เป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยในการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม

 

แต่สำหรับส่วนตัวผู้เขียนเอง จุดที่ทำให้เราสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆ อาจไม่ใช่หัวข้อต่างๆ ที่เรากล่าวมาข้างต้น แต่เป็น ‘ประสบการณ์ร่วม’ ที่เรามีร่วมกับตัวละครในเรื่องเสียมากกว่า 

 

นักเรียนชายขี่คอเพื่อนที่แต่งหน้าเป็นหมี

 

โดยเฉพาะพาร์ตการทำภาพยนตร์สั้นของเป้และผองเพื่อน ทั้งช่วงที่เป้ โบเก้ และแก๊งห้องโสตฯ นั่งประชุมร่วมกันว่าเราจะถ่ายซีนต่างๆ กันอย่างไร หรือจะเป็นการหยิบผลงานของผู้กำกับชื่อดังมาเป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงความกล้าในการลองทำอะไรบ้าๆ บอๆ ซึ่งชวนให้เราหวนนึกถึงภาพในอดีตที่เคยจับกลุ่มกับเพื่อนๆ ในสมัยเรียนมาทำภาพยนตร์สั้นด้วยกัน และช่วยกันหาไอเดียสนุกๆ ฮาๆ คล้ายๆ กับตัวละครในเรื่อง 

 

ด้วยประสบการณ์ร่วมที่เราเคยมีคล้ายๆ กับตัวละครภายในเรื่อง จึงทำให้ เพื่อน(ไม่)สนิท เป็นภาพยนตร์ที่สามารถดึงเราให้เข้าไปอยู่ในเรื่องราวที่ผู้กำกับและทีมสร้างต้องการนำเสนอได้ในทันที รวมถึงในบางฉากบางตอนก็ทำให้เรารู้สึกและเข้าใจสิ่งที่ตัวละครกำลังรู้สึกไม่มากก็น้อย ทั้งความรู้สึกที่ได้เห็นสิ่งที่เราคิดอยู่ในหัวกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว หรือบางทีก็มีปากเสียงกับเพื่อนในกลุ่มบ้างเช่นกัน 

 

 

นอกเหนือจากพาร์ตการทำภาพยนตร์สั้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างอินกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษคือ ประเด็นที่พูดถึง ‘การทำใครสักคนหลุดมือไประหว่างทาง’ ผ่านเรื่องราวมิตรภาพระหว่างโบเก้กับโจที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยมต้น นั่งข้างกันมาตลอด แชร์ความลับและความฝันให้กันฟัง ก่อนที่ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันจนไม่สามารถกลับมาพูดคุยกันได้อย่างเดิมนานหลายปี 

 

และในขณะที่เราติดตามเรื่องราวของทั้งคู่ ก็ชวนให้เราลองคิดทบทวนถึงอดีตไปพร้อมกับพวกเขาว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบันเราเคยได้พบเจอกับใครบ้าง เคยสนิทกับใครบ้าง และเคยทำใครหลุดมือไประหว่างทางบ้าง รวมถึงการโยนคำถามให้ผู้ชมลองทบทวนดูว่า ‘เพราะเหตุใดเราจึงทำผู้คนเหล่านั้นหลุดมือไป’ ซึ่งประเด็นดังกล่าวที่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างมีมิติก็ยิ่งขับเน้นให้ ‘ความเทาๆ’ ของตัวละครเด่นชัดมากขึ้นไปอีกด้วย 

 

เมื่อภาพยนตร์ทำหน้าที่จูงมือเราไปทบทวนแง่มุมของ ‘เพื่อน’ ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของผู้กำกับ (รวมถึงตัวละครภายในเรื่อง) ที่ตั้งคำถามไว้ตั้งแต่ต้นว่า หากในวันนั้นเราไม่ได้ทำเพื่อนบางคนหลุดมือไป หากวันนี้เรายังเป็น ‘เพื่อนสนิท’ กันอยู่ มันจะเป็นอย่างไร ตัวเราและเพื่อนคนนั้น ณ เวลานี้จะแตกต่างไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน เสมือนเป็นการจินตนาการถึง ‘อีกจักรวาลหนึ่ง’ ดังที่ตัวละครโจและเป้ได้กล่าวไว้นั้นเอง

 

 

ในภาพรวมแล้ว ด้วยความที่ผู้เขียนค่อนข้างมีจุดเชื่อมโยงกับเรื่องราวของตัวละครค่อนข้างมาก ทั้งพาร์ตการทำภาพยนตร์สั้นกับเพื่อนๆ หรือจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับเพื่อน จึงทำให้ เพื่อน(ไม่)สนิท เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ ‘ส่วนตัว’ กับเรามากพอสมควร 

 

ขณะเดียวกัน หากเราลองมองข้ามความรู้สึกส่วนตัวออกไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังเป็นผลงานที่เล่าถึง ‘มิตรภาพในวัยเรียน’ ออกมาได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงการแสดงของทีมนักแสดงนำทุกคนที่ต่างก็มีเสน่ห์ ไม่มีใครโดดเด่นมากน้อยไปกว่ากัน และชวนให้เราจับตารอชมผลงานใหม่ของพวกเขาต่อไปในอนาคต 

 

เพื่อน(ไม่)สนิท เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่: 

 

 

ภาพ: GDH

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising