กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 3 ลูกลงสู่ทะเลตะวันออกเมื่อคืนนี้ (3 พฤศจิกายน) ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังจากที่ฝั่งโสมแดงได้ออกแถลงการณ์ประณามเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาที่ตัดสินใจขยายการซ้อมรบร่วมทางอากาศออกไป
ข้อมูลจากคณะเสนาธิการร่วมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงมาจากจังหวัดฮวางแฮ ในเวลาประมาณ 21.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังจากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. เกาหลีเหนือก็ได้ระดมยิงปืนใหญ่อีกราว 80 นัดลงสู่เขตกันชนทางทหารในทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างสองเกาหลีที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2018
โดยวานนี้ พัคจงชน เลขาธิการคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ กล่าวว่า การตัดสินใจขยายการซ้อมรบของทั้งสองชาตินั้นอันตรายมาก ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้สถานการณ์อยู่เหนือการควบคุมมากกว่าเดิม
“สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ จะได้รู้ว่าพวกเขาทำผิดพลาดร้ายแรงแบบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้” พัคกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธรอบใหม่ในสัปดาห์นี้ ไล่เรียงมาตั้งแต่วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 23 ลูกในวันเดียว ต่อมาเมื่อเช้าวานนี้ (3 พฤศจิกายน) เกาหลีเหนือก็ได้ยิงขีปนาวุธ 3 ลูกตกลงสู่ทะเล โดยคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ด้วย 1 ลูก ส่งผลให้กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ตกลงที่จะขยายระยะเวลาของปฏิบัติการ ‘Vigilant Storm’ ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมร่วมทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาของทั้งสองประเทศ โดยระบุแล้วว่าจะมีขึ้นถึงวันเสาร์นี้ (5 พฤศจิกายน)
ข้อมูลจากสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ในปี 2022 เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไปแล้วกว่า 60 ลูก ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ฝ่ายเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีเมื่อใดก็ได้
ภาพ: Anthony Wallace / AFP
อ้างอิง:
