รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุ จะยังคงเดินหน้าเปิดพื้นที่เจรจากับเกาหลีเหนือต่อไป แม้ประชาคมโลกจะกังวลว่ากองทัพโสมแดงอาจกลับไปเดินหน้าโครงการขีปนาวุธนิวเคลียร์อีกในอนาคตอันใกล้ โดยนางคังคยองฮวา รัฐมนตรีต่างประเทศ ชี้ว่าการเจรจาคือเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างโอกาสสำคัญเพื่อคลี่คลายความไม่สงบที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาค
“ฉันคิดว่าพวกเราเข้าใจเกาหลีเหนือดีมากกว่าใครๆ เราเจรจาตกลงกันตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาทั้งรูปแบบการเจรจาแบบปิดและเปิด พวกเราไม่ได้เจรจาตกลงกันเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนี่คือโอกาสสำคัญ
“แน่นอนว่ามีทฤษฎีและการคิดคำนวณเกิดขึ้นมากมายตลอดการเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่ท้ายที่สุดเราก็ต้องมุ่งไปที่โอกาสที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด เกาหลีใต้และพันธมิตรต่างลงเรือลำเดียวกัน และเป้าหมายระยะยาวคือการปลดขีปนาวุธนิวเคลียร์ออกไปจากภูมิภาคนี้”
ด้านตัวแทนรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มมาตรการกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ระบุว่า “นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาผ่อนคลายมาตรการกดดันหรือให้รางวัลแก่เกาหลีเหนือ เพราะการที่เกาหลีเหนือยินยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจาเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่ามาตรการกดดันใช้ได้ผล”
โดยทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ต่างบรรลุข้อตกลงจะถือธงรวมเกาหลีในมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 ที่เมืองพย็องชัง เกาหลีใต้ ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-25 กุมภาพันธ์นี้
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ คณะผู้แทนจากเกาหลีเหนือหลายคน เชียร์ลีดเดอร์กว่า 230 คน นักดนตรีออร์เคสตรา 140 คน และทีมนักกีฬาเทควันโดอีก 30 คนจะได้สิทธิ์เข้าร่วมงานมหกรรมกีฬาในครั้งนี้ด้วย โดยทั้งสองประเทศจะรวมทีมลงแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งประเภททีมหญิงร่วมกันอีกด้วย นับเป็นการรวมทีมลงแข่งครั้งแรกของทั้งสองประเทศ
ฝ่ายคณะกรรมการจัดการแข่งขันกำลังพิจารณาหารือเกี่ยวกับกรณีที่ตัวแทนนักกีฬาจากเกาหลีเหนือมาไม่ทันช่วงลงทะเบียน รวมถึงกำลังหามาตรการเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราของคณะผู้แทนและนักกีฬาที่จะไม่เข้าข่ายเป็นการละเมิดมติคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ให้ประเทศสมาชิกระงับการทำธุรกรรมการเงินกับเกาหลีเหนือ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
Photo: AFP
อ้างอิง:
