นาทีนี้คงมีหลายคนกำลังร่วมลุ้นไปกับความรักในจอของ เชน และ หยิน ในซีรีส์แนวโรแมนติกคอเมดี้ หารักด้วยใจเธอ Find Yourself ทางช่อง GMM25 รายการ Chairs to Share จึงไม่พลาดโอกาสในการชวน ‘เชน’ รับบทโดย นน-ชานน สันตินธรกุล หรือในชื่อ ‘นนกุล’ ที่เราคุ้นหูกว่า มาจับเข่าคุยถึงสารพัดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขา ทั้งเรื่องงาน และแน่นอนเรื่องความรักที่เชื่อว่าเป็นหัวข้อที่ทุกคนอยากให้เขาแชร์มากที่สุด
ก่อนจะไปถึงเรื่องรัก มารับรู้ทัศนคติในการทำงานของนักแสดงชายที่จริงจังและจริงใจกับวงการบันเทิงไทยมากที่สุดคนหนึ่งแห่ง พ.ศ. นี้เป็นอันดับแรก หากคุณเคยติดตามบทสัมภาษณ์ของนนกุลมาบ้าง ย่อมสัมผัสได้ถึงแพสชันอันแรงกล้าต่ออาชีพนักแสดงของเขาที่ไม่เคยแผ่วลงแม้แต่น้อย
“อาชีพการแสดงสำหรับผมเหมือนกับเป็นนักกีฬาทางอารมณ์ นักกีฬาไดอะล็อก นักกีฬาการสร้างคาแรกเตอร์ เราต้องไม่เหนื่อยที่จะท่องบทซ้ำๆ เราต้องไม่เหนื่อยที่จะเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับบทบาทนั้นๆ ยิ่งเรามีทัศนคติแบบนี้ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เรารู้สึกสบายมากขึ้น แม่นยำมากขึ้นในการจะทำหน้าที่ของเรา”
และด้วยการหมั่นฝึกฝนและฝึกซ้อมดังกล่าวก็ไม่ต่างจากการเตรียมความพร้อมเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจมาโดยตลอด นั่นคือการเป็นนักแสดงฮอลลีวูด ซึ่งระหว่างเส้นทางที่นนกุลก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ นั้น เขาเริ่มเรียนรู้และเข้าใจหนทางที่จะเข้าใกล้ฝันนั้นแบบไม่มุทะลุเท่าเมื่อครั้งยังเยาว์
“ฝันอยากไปฮอลลีวูดยังคงอยู่ แต่หนทางอาจเปลี่ยนเล็กน้อย เมื่อหลายปีก่อนอาจจะคิดว่าไปตายเอาดาบหน้าที่นั่นดีไหม แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไปเลยทำให้รู้ว่าการจะไปถึงตรงนั้นไม่จำเป็นต้องไปตรงนั้น แค่อยู่ในโพสิชันตัวเองให้ดี โอกาสก็อาจจะมาหาเราเอง” นนกุลยังย้ำต่อด้วยประโยคสั้น ง่าย และได้ใจความว่า “อยู่ให้ถูกที่ ใช้โอกาสให้ถูกทาง”
มากไปกว่าความฝันส่วนตัวบนเส้นทางของการเป็นนักแสดงระดับโลก นนกุลขอแชร์อีกหนึ่งความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือความมุ่งมั่นในการเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนวงการบันเทิงไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล
“ตอนนี้มีอีกฝันที่เข้ามาและรุนแรงกว่าฝันเดิมคือ อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการบันเทิงไทยไปไกลกว่านี้ เพราะปี 2019 ผมเห็นหนังของประเทศหนึ่งได้ออสการ์ Best Picture ฝันอยากไปฮอลลีวูดเลยฮวบไปเลย เรายังมีฝันนั้นอยู่นะ แต่ในใจลึกๆ รู้สึกว่านี่เป็นอะไรที่ยิ่งกว่านั้น มันบอกภาพรวมของวงการถึงศักยภาพที่ทำให้ตลาดโลกยอมรับผลงานของประเทศคุณ ผมเลยอยากเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้หนังประเทศเราได้รับการยอมรับในระดับโลก”
นนกุลไม่ได้มีแค่ความตั้งใจดี เขาได้ลองแชร์นโยบายในการผลักดันศักยภาพของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยที่ตัวเองลองคิดคำนวณขึ้นคร่าวๆ เพื่อวาดหวังว่าหากสามารถลงมือทำได้จริงคงจะดี พร้อมย้ำถึงความหลงใหลในอาชีพนักแสดง ซึ่งเป็นงานที่เขารักมากที่สุด และจะทำต่อไปเรื่อยๆ เท่าที่สังขารจะอำนวย
“อาชีพนี้เป็นอาชีพแรกและอาชีพเดียวสำหรับผม ณ ตอนนี้ ที่ทำให้ผมเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น จากเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบเท่าไรก่อนเข้าวงการ จนทุกวันนี้ผมเริ่มมองภาพที่มันกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่จะมีพลังอำนาจในการทำไหมก็เป็นอีกเรื่อง แต่คนรอบตัวก็เชื่อมั่นในตัวผมมากขึ้น เพราะในวันแรกที่ผมบอกว่าจะไปฮอลลีวูด ผมยังเป็นนักแสดงตัวเล็กๆ แต่วันนี้พัฒนาขึ้น อยู่ในจุดที่ไกลจากเดิมมากขึ้น อาจจะไปไม่ถึงฮอลลีวูด แต่ฝันนั้นก็ทำให้ผมมาถึงตรงนี้ได้
“ผมเป็นคนดื้อด้าน ผมเชื่อว่าตัวเองน่าจะมีศักยภาพพอที่จะไปถึงได้” นนกุลย้ำในทุกคำพูดอย่างจริงจังและจริงใจในแบบของเขา
จากบทสนทนาเรื่องงานเชื่อมโยงสู่เรื่องหัวใจอย่างแยกกันไม่ออก เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ นับตั้งแต่เปิดกล้องซีรีส์เรื่อง หารักด้วยใจเธอ จนถึงวันที่ออนแอร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา คือระยะเวลาที่พระเอก-นางเอกได้ทำความรู้จักกันและกันมากขึ้นทั้งในจอและนอกจอ
“พี่แอฟเป็นนักแสดงที่ผมเห็นมาตั้งแต่วัยละอ่อน เขามีคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างชัดเจน สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าน่ารักคือเขาวางตัวดีและไม่อ่อนข้อ ไม่ว่าคนจะมองเขาเป็นอย่างไรก็ตาม ยังคงรักษาความเป็นตัวตนของเขาอย่างหนักแน่นมั่นคง ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีเสน่ห์มาก” นนกุลตอบคำถามถึงความรู้สึกที่มีต่อทักษอรในสองสถานะ ทั้งการเป็นนักแสดงและในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง
“ส่วนในฐานะผู้หญิง พี่แอฟเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานและเข้มแข็งมากๆ มีบางมุมเท่านั้นที่ผมรู้ ซึ่งน่ารักมากๆ สำหรับผม เวลาง้อ-งอนจะมีน้ำเสียงที่เขาใช้ที่น่ารักมากๆ ซึ่งผมคงไม่สามารถ Imitate ออกมาให้ทุกคนดูได้ และไม่คิดจะทำ เพราะอยากให้ผมรู้คนเดียว มันเป็นมุมน่ารักๆ ในช่วงเวลาส่วนตัวที่เราอยู่ด้วยกัน ผมมองว่าดีจังเราเห็นได้คนเดียว เรารับรู้ได้คนเดียว มันเลยพิเศษสำหรับเรา”
แม้ในยามพูดถึงคนรัก นนกุลก็ยังจริงจังในทุกถ้อยคำที่เขากลั่นกรองออกมาอย่างตั้งใจตลอดบทสนทนา ซึ่งก็ราวกับจิ๊กซอว์ที่ประกอบเป็นภาพจนสมบูรณ์ เมื่อบางคำตอบของเขาต่อเนื่องจากเมื่อครั้งที่แอฟเคยเปิดหัวใจคุยกับ Chairs to Share เมื่อครึ่งปีก่อนหน้านี้
“วันที่พี่แอฟมาออกรายการ ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่คนที่เขาพูดถึงคือเรา รู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ เพราะทุกๆ คำพูดที่พี่เขาพูดออกมาเป็นคำพูดที่กลั่นกรองออกมาจากใจจริงๆ และยังให้แรงบันดาลใจกับอีกหลายๆ คนที่ผมเห็นในคอมเมนต์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะพูดอะไรแบบนี้แล้วพิเศษแบบที่พี่เขาพูด แค่มองหน้าพี่เขาเราก็รู้เลยว่าพี่เขาเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความรักจริงๆ แล้วเรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้รู้จักและได้อยู่ในสถานะนี้กับพี่เขา
“ถ้าเราเลือกจะคุยและจริงจังกับคนคนนี้ และยิ่งจะใช้สถานะแฟนด้วย บวกกับเราเป็นคนในอาชีพนี้ เวลาเราจะใช้คำพูดใดๆ ทุกคนรู้หมด เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่เราจะต้องตัดสินใจปุ๊บ แล้วต้องวางแผนสเต็ปต่อไปเลยว่าจะเอาอย่างไรต่อ เพราะฉะนั้นจะมัวเล่นๆ ไม่ได้ เพื่อเป็นการให้เกียรติพี่เขาด้วย เพื่อให้เท่ากับเกียรติที่ผมได้รับจากพี่เขามา”
บทสนทนาที่เปิดหัวใจเล่าแบบหมดเปลือกของนนกุลทำเอาคลิปเซอร์ไพรส์กลางรายการไม่ทำให้เขาประหลาดใจ เพราะคนในคลิปเป็นคนที่ทุกคนรู้ว่าใคร ทว่าคำถามทิ้งท้ายในคลิปก็นำมาซึ่งการได้ทำความรู้จักทัศนคติอื่นๆ เพิ่มเติมของนักแสดงหนุ่มอนาคตไกลที่ดื้อจนได้ดีคนนี้
รับชม Chairs to Share EP.24 นนกุล กับความรักที่อยากตอบตรงๆ ได้ที่