วันนี้ (23 กรกฎาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ‘NO Drugs NO Dealers’ โดยตั้งเป้าหมายให้เห็นผลภายใน 3 เดือน พร้อมยืนยันว่าการปฏิบัติงานตามนโยบายนี้จะส่งผลต่อการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี
ในการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้มอบนโยบายและกำชับให้ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มข้น ตามคำสั่งของ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ยาเสพติดหมดไปจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายใน 3 เดือน
ผบ.ตร. ได้เปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการ 3 ระยะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
- ระยะที่ 1 (สิ้นเดือนกรกฎาคม): ‘เอ็กซเรย์’ พื้นที่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพื่อค้นหาและจับกุมผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้าขนาดกลาง และผู้เสพให้เข้มข้นยิ่งขึ้น จะมีการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ยึดทรัพย์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
- ระยะที่ 2 (เดือนสิงหาคม): ‘เอ็กซเรย์ซ้ำ’ และขยายผล ปฏิบัติการร่วมกับฝ่ายปกครอง โดยนำข้อมูลจากระยะแรกมาขยายผลการจับกุม และนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดอย่างต่อเนื่อง
- ระยะที่ 3 (เดือนกันยายน): ประเมินผล วัดความพึงพอใจของชุมชนและประเมินผลการปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การประกาศเป็น ‘ชุมชนปลอดยาเสพติด’ หรือ ‘ชุมชนสีขาว’
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ย้ำชัดเจนว่า “ทำดีย่อมมีรางวัล ทำไม่ดีต้องได้รับโทษ” โดยจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ปฏิบัติงานจากข้อเท็จจริงและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ผบ.ตร. จะหารือกับปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และป้องกันความสับสนในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน
ในการประเมินผลงาน ผบ.ตร. ระบุว่าไม่ได้วัดจากจำนวนของกลางที่จับกุมได้ แต่จะพิจารณาจาก ความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการตรวจค้น ขยายผลเครือข่าย และการฟอกเงินในพื้นที่ เพื่อให้กระบวนการปราบปรามยาเสพติดเสร็จสิ้นภายใน 3 เดือน
นโยบายนี้จะถูกนำมาใช้เป็น เกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี ที่กำลังจะมาถึง สำหรับเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น ตั้งแต่พลตำรวจตรี พลตำรวจโท และพลตำรวจเอก โดยจะพิจารณาจากความอาวุโสและความรู้ความสามารถอย่างชัดเจน ผู้ที่ปฏิบัติงานดีจะได้รับรางวัล ส่วนผู้ที่หย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่จะถูกพิจารณาตามดัชนีชี้วัดที่ชัดเจนในการแต่งตั้งโยกย้าย
เมื่อถามว่าจะใช้ ตำแหน่งเป็นประกันในการทำงานครั้งนี้หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ แสดงท่าทีตกใจเล็กน้อย พร้อมยืนยันหนักแน่นว่าจะทำอย่างเต็มที่ที่สุด