×

‘นิเวศน์’ เล็งปรับพอร์ต โยกเงินลงทุนนอก ห่วงเศรษฐกิจไทยโตช้า

โดย THE STANDARD TEAM
11.11.2020
  • LOADING...
‘นิเวศน์’ เล็งปรับพอร์ต โยกเงินลงทุนนอก ห่วงเศรษฐกิจไทยโตช้า

นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนหุ้นคุณค่า (Value Investor) ให้สัมภาษณ์ THE STANDARD WEALTH ผ่านรายการ Morning Wealth ว่า หุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสที่ดัชนีขึ้นมายืนในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 หากการคิดค้นวัคซีนสำเร็จและสามารถนำมาใช้ได้จริง

 

“ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดปรากกฏการณ์สองเรื่อง โดยเรื่องแรกคือ ผลการเลือกตั้งที่ โจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ อีกเรื่องคือ วัคซีนโควิด-19 ซึ่งทั้งสองเรื่องถือเป็นข่าวดี โดยเฉพาะข่าววัคซีน ที่คาดกันว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้น”

 

เขากล่าวว่า หากวัคซีนนำมาใช้ได้จริงจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย เพราะที่ผ่านมา ไทย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่โดนผลกระทบจากโควิด-19 หนักสุด แม้ไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไม่มากนัก แต่การท่องเที่ยวของไทยคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ถึง 12% เมื่อนักท่องเที่ยวหายไป จึงกระทบต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างมาก แต่เมื่อมีวัคซีนมา ก็น่าจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาได้ และทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นด้วย

 

นิเวศน์ กล่าวว่า หากดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมารอบนี้ อาจพิจารณาปรับพอร์ตการลงทุนใหม่ โดยจะลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลง และหันไปลงทุนในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจไทยระยะข้างหน้า แม้จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับก่อนโควิด-19 ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่การจะหวังให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีต่อเนื่องยังเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเก่า ในขณะที่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ยังมีน้อย

 

“คิดว่าหุ้นไทยรอบนี้คงขึ้นแค่ระยะสั้นถึงระยะกลาง อาจจะกลับขึ้นมาอยู่ใกล้ บริเวณเดิมก่อนโควิด-19 (ประมาณ 1,500 จุด) แต่การจะหวังให้ขึ้นไปจนทะลุไฮเดิมที่ 1,800 จุด ค่อนข้างยาก”

 

สำหรับพอร์ตการลงทุนของนิเวศน์ ปัจจุบันถือเงินสด 10% และลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม 10% ที่เหลืออีก 70% เศษๆ ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพอร์ตการลงทุนโดยรวมยังติดลบราวๆ 10% โดยเขาหวังว่า ภายในสิ้นปีนี้พอร์ตการลงทุนจะติดลบน้อยกว่านี้

 

นิเวศน์ กล่าวด้วยว่า ในเวลานี้ค่อนข้างสนใจหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งปัจจุบันราคาลดลงมาแล้วราว 30-40% สาเหตุเพราะทุกคนกังวลเรื่องหนี้เสีย (NPL) แต่เขาเชื่อว่า วิกฤตรอบนี้ธนาคารพาณิชย์สามารถบริหารจัดการหนี้เสียได้ค่อนข้างดี อีกทั้งดอกเบี้ยก็อยู่ระดับต่ำ ทำให้ลูกหนี้มีกำลังผ่อนไหว ขณะเดียวกันราคาสินทรัพย์ต่างๆ ก็ไม่ได้ลดลงไปมาก เมื่อธนาคารพาณิชย์ยึดหลักประกันเหล่านี้มา ราคาขายต่อจึงไม่ตกมากนัก 

 

“หากแบงก์เคลียร์ NPL ได้ดี ราคาหุ้นในขณะนี้ถือว่าถูกมาก เพราะ P/BV (ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี) ไม่ถึง 1 เท่า หรืออยู่แค่ประมาณ​ 0.6 เท่า ซึ่งต่ำมาก โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ราคาหุ้นมีส่วนลดอยู่ค่อนข้างมาก”

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising