หากเอ่ยชื่อ ‘นิติพลคลินิก’ คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะต่อให้ไม่เคยเข้าไปใช้บริการก็ต้องเคยผ่านตา เพราะเป็นคลินิกความงามที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1991 โดยปัจจุบันมีสาขามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ และเป็นแบรนด์แรกที่ได้เข้าไปเปิดในห้างสรรพสินค้า

 

กว่า 33 ปีที่นิติพลคลินิกให้บริการลูกค้าด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและบริการที่ได้มาตรฐานภายใต้นโยบาย ‘มาตรฐานการแพทย์คือหลักปฏิบัติของเรา’ และไม่หยุดที่จะพัฒนาบริการพร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ

 

นพ.นิติพล ชัยสกุลชัย ผู้ก่อตั้งนิติพลคลินิก เน้นย้ำว่า 2 สิ่งที่คลินิกให้ความสำคัญคือ การคัดเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และเครื่องมือที่ดีที่สุด มีมาตรฐานรองรับ และมีความปลอดภัยสูงสุดมาให้บริการลูกค้า

 

1 ใน 5 คลินิกที่ติด Top 5 Total Galderma Aesthetic Collection – Chain Clinic

 

นี่คือเหตุผลที่ล่าสุด ‘นิติพลคลินิก’ เป็น 1 ใน 5 คลินิกความงามที่ได้รับเลือกให้เป็น Top 5 Total Galderma Aesthetic Collection – Chain Clinic บนเวที SKIN THAT FEELS LIKE YOU AGAIN AWARD RECOGNITION NIGHT 2024 ซึ่งเป็นรางวัล Top Clinic ที่มอบให้กับคลินิกที่มียอดใช้ผลิตภัณฑ์ Galderma Aesthetics Thailand สูงสุดประจำปี 2023 สะท้อนให้เห็นถึงการได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้บริโภค

 

“เพราะความไว้วางใจของลูกค้าคือสิ่งล้ำค่า ตลอดการดำเนินธุรกิจ เราให้ความสำคัญในเรื่องเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมอย่างมาก ทุกอย่างต้องผ่านการคัดเลือกหลายขั้นตอน ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รับรอง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เป็นเหตุผลที่เราไว้วางใจ Galderma (กัลเดอร์มา) มาโดยตลอด เพราะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการรักษามากว่า 40 ปี และมีทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่รังสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพผิวอย่างมีประสิทธิภาพสูง รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกมิติ”

 

นพ.นิติพล ยังบอกด้วยว่าการได้เป็น Top 5 Total Galderma Aesthetic Collection – Chain Clinic ของเวทีอันทรงเกียรตินี้ เป็นเครื่องยืนยันว่านิติพลคลินิกยังคงเป็นคลินิกความงามอันดับต้นๆ ที่คนไทยให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ เพราะ AWARD RECOGNITION NIGHT ถือเป็นงานประกาศและมอบรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ Galderma จัดขึ้นเพื่อเชิดชูแพทย์ผู้ชำนาญการและคลินิกความงามที่มอบบริการด้านความงามอันเป็นเลิศและมีมาตรฐาน

 

 

“นอกจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่มอบผลลัพธ์ตอบโจทย์ลูกค้า ความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็มีผลอย่างมาก นิติพลคลินิกให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาองค์ความรู้และอัปเดตนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับแพทย์อย่างต่อเนื่อง เรามีทีมอบรมภายในเรื่องแนวทางการบริการและการดูแลลูกค้าให้ได้มาตรฐานเดียวกันทุกสาขา นอกจากนั้นยังจัดกิจกรรม Knowledge & Skill เติมทักษะและความรู้ทางการแพทย์ อัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ให้กับทีมแพทย์และบุคลากรทุกคน”

 

นพ.นิติพล บอกว่าหากถามลูกค้าว่าพูดถึงนิติพลคลินิกจะนึกถึงอะไร สโลแกน ‘ยิง โม โบ ร้อย’ จะต้องเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกเขานึกถึง “ทุกวันนี้ลูกค้ามองเราเป็นสถาบันดูแลความงามครบวงจรที่รวมเครื่องมือและเทคนิคเสริมความงามจากทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น การยิงเลเซอร์ด้วยโปรแกรมต่างๆ การโม หรือการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม การฉีดสารคลายกล้ามเนื้ออย่างสารลดเลือนริ้วรอย หรือโปรแกรมการร้อยไหม รวมไปถึงนวัตกรรมด้านความงามอื่นๆ ก็ไม่ต้องบินไปที่ไหนและอยู่ที่ไหนในเมืองไทยก็เข้าถึงได้ทุกนวัตกรรม เพราะเรามีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ”

 

ทำไม ‘Duo Technic Filler’ ถึงเป็นบริการที่ลูกค้านิติพลคลินิกเลือกรับบริการมากที่สุด

พอพูดถึง ‘ยิง โม โบ ร้อย’ ลูกค้าไม่น้อยเลือกเข้ารับบริการ Duo Technic Filler ที่นิติพลคลินิก เป็นการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มแบบ Duo Layer ด้วยเทคนิคเฉพาะของทางคลินิก

 

“การใช้สารเติมเต็มเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ต้องแก้ไขโครงหน้าให้ดูสวยในแบบที่เขาเป็น ต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจรูปหน้าของคนไข้แต่ละบุคคล เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่แก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างตรงจุด และต้องรักษาโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น ที่นิติพลคลินิกเรามีการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มแบบ Duo Layer เพื่อสร้าง Highlight & Contour โดยเลือกใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะที่เหมาะสมกับจุดที่ต้องการรักษา อาทิ ลักษณะเนื้อนิ่ม เนื้อยืดหยุ่น และเนื้อแข็ง เพื่อช่วยเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนังและเสริมส่วนที่บกพร่องที่หายไปให้กลับคืนมาโดยไม่ต้องใช้สารเติมเต็มมากนัก ช่วยให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย* ซึ่งเป็นเทรนด์ความงามที่คนยุคนี้ให้ความสนใจอย่างมาก

 

“นอกจากเทคนิคที่จะช่วยคืนความอ่อนวัย สิ่งที่ลืมไม่ได้คือสารเติมเต็มที่ใช้ต้องมีประสิทธิภาพ เพราะต้องใช้หลายรูปแบบ ทั้งลักษณะเนื้อนิ่ม เนื้อยืดหยุ่น และเนื้อแข็ง เราเลือกใช้ NASHA & OBT Dermal Fillers ซึ่งเป็นสารเติมเต็มพรีเมียมจากประเทศสวีเดน ที่มีมาตรฐานการผลิตภายใต้การดูแลของ Galderma ซึ่งได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ไทย และเกาหลีใต้ รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากสหภาพยุโรป (EDQM) ซึ่งผลิตภัณฑ์จาก Galderma มีครอบคลุมในทุกรูปแบบ ตอบสนองแพทย์ของเราได้เป็นอย่างดี”

 

เทรนด์ความงามยุคใหม่ ‘คืนคอลลาเจนให้ผิวแบบไม่ง้อเลเซอร์’

 

“ตอนนี้เทรนด์การคืนคอลลาเจนให้ผิวกำลังมาแรง โดยปกติพออายุอยู่ในช่วง 20 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนอยู่ที่ปีละ 1-2% รวมถึงร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยบนผิวมากขึ้น แต่เดิมพอพูดคำว่ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีเดียวคือการยิงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าผิวพรรณจะดีขึ้น แต่ตอนนี้มีการทำหัตถการประเภท Collogen Biostimulator หรือสารกลุ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติเพื่อทดแทนคอลลาเจนเดิมที่สูญเสียไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นกำลังเป็นที่นิยม เราเองก็มีโปรแกรมทางเลือกที่เรียกว่า ‘Skin Sculpting Solution’ เป็นโปรแกรมที่เน้นการแก้ไขปัญหาผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัย โปรแกรมนี้มีอนุภาคสาร PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย มีคุณสมบัติที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนในร่างกายให้เพิ่มมากขึ้นตามกระบวนการธรรมชาติ จริงๆ มีหลายผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูคอลลาเจนให้กับผิว แต่เราพิจารณาถึงมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต การวิจัยย้อนหลังนับสิบปี  ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด The Best ของเราในการเลือก Galderma เพราะเราเชื่อมั่นในแบรนด์ มีงานวิจัยที่ตรวจสอบได้ และมีประสบการณ์การใช้งานจริงจากแพทย์ของยุโรป”

 

นพ.นิติพล บอกว่า จริงๆ แล้วยังมีเทรนด์ความงามที่แยกย่อยไปแต่ละช่วงวัย สำหรับคนรุ่นใหม่ที่เสพสื่อโซเชียลและดูรีวิวเป็นหลัก จะสนใจหัตถการที่เห็นผลเร็ว ราคาประหยัด ทำให้ตกเป็นเหยื่อของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานและหมอเถื่อนได้ง่าย ในขณะที่ผู้ใหญ่จะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและเชื่อผลลัพธ์จากสิ่งที่เห็น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของนิติพลคลินิกอยู่ในสัดส่วนนี้ หลายคนใช้บริการมากว่า 30 ปี

 

 

จุดเด่นของ ‘นิติพลคลินิก’ ที่สร้างความเชื่อใจตลอดมาและตลอดไป

 

“ลูกค้าส่วนใหญ่มีผลลัพธ์ในใจแต่ยังไม่รู้ว่ามีเครื่องมือและวิธีการรักษาแบบไหนบ้างที่เหมาะสมและตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด เราจึงมองว่าการให้คำปรึกษาถึงทางเลือกการรักษาแต่ละวิธีโดยละเอียด จุดเด่น-จุดด้อยของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด การวิเคราะห์ว่าลูกค้าแต่ละรายเหมาะกับโปรแกรมใดก่อนเข้ารับบริการเป็นเรื่องสำคัญ สุดท้ายลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่คิดว่าใช่สำหรับตนเอง ทั้งแพทย์และพนักงานต้อนรับของนิติพลคลินิกถูกปลูกฝังมาในเรื่องนี้เป็นพิเศษว่าต้องให้ข้อมูลลูกค้าให้มากพอจนลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกบริการที่เหมาะสมและต้องการได้อย่างแท้จริง”

 

ก้าวต่อไปของนิติพลคลินิก ‘รักษามาตรฐาน รักษาฐานลูกค้า’

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจความงามแข่งขันกันอย่างดุเดือด ต่อให้เป็นแบรนด์ที่อยู่มานานและมีฐานลูกค้าเหนียวแน่นก็ต้องไม่หยุดที่จะหากลยุทธ์ใหม่เพื่อครองตำแหน่ง Top of Mind ของลูกค้าตลอดไป

“ปีที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเติมเต็มความต้องการที่เกิดขึ้น ในปี 2024 นิติพลคลินิกเดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ ABC ตั้งรับความท้าทายของเศรษฐกิจ

 

A คือ Advance ต้องไม่ลืมว่าเราคือผู้นำในวงการคลินิก อยู่มานานและมีสาขามากที่สุด จะหยุดเดินไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ทุกคนในองค์กรต้องคิดเหมือนกัน ต้องช่วยกันริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ทั้งการบริการ นวัตกรรม เทคโนโลยี เทคนิคการรักษา ต้องนำหน้าคนอื่นไปหนึ่งก้าวเสมอ

 

B คือ Best เราต้องเป็น The Best ทุกมิติ ทั้งผลิตภัณฑ์ เครื่องมือ บริการ แพทย์ หรือบุคลากรที่ทำงานทุกสาขา ทุกอย่างต้องเป็น The Best เรามีทีมพัฒนาองค์กร ซึ่งเป็นแพทย์อาวุโสและทีมบริหารที่คอยตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพ และผลงานของทุกสาขาอย่างสม่ำเสมอ และคำว่า The Best ต้องหมายถึงการแข่งขันกับตัวเองเพื่อทำให้ตัวเองเป็น The Best Version ให้บริการและตอบแทนลูกค้าให้ดีที่สุด

 

ท้ายสุดคือ C ที่หมายถึง Customer Centric ลูกค้าคือหัวใจหลัก เราถึงบอกว่านิติพลคลินิกมีจุดเด่นเรื่องการให้คำปรึกษา ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการเราต้องอ่านความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าให้ออก ซึ่งการสื่อสารระหว่างกันอย่างตั้งใจจะช่วยให้เราและลูกค้าเข้าใจตรงกันมากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้เราจะยังคงรักษามาตรฐานและเน้นเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าการเข้ารับบริการที่นิติพลคลินิกคุ้มค่าที่สุด”

 

*ผลลัพธ์และระยะเวลาที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงาม