วันนี้ (6 เมษายน) นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าตามที่ได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น โดยเพลิงไหม้ได้เกิดขึ้นบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างให้แก่พื้นที่โดยรอบกว่า 2,400 ไร่ โดยในขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังป้องกันการปะทุลุกลามและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
นิพนธ์ได้สั่งการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อให้นำเฮลิคอปเตอร์บรรทุกน้ำเพื่อดับไฟและควบคุมสถานการณ์รอบบริเวณแนวเขาและพื้นที่เสี่ยงต่อการลุกลามของไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและจำกัดความเสียหายพื้นที่ป่าอุทยานฯ รวมถึงการลดปัญหามลภาวะฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือไปแล้วนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มทบ.33 อำเภอแม่ริม อบจ.เชียงใหม่ อส. อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิจิตอาสา เข้าทําการควบคุมไฟป่า พร้อมทําแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าไม่ให้ลุกลาม โดยการปฏิบัติภารกิจมีดังนี้
- วันที่ 2 เมษายน เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทําการบินบรรทุกน้ำดับไฟป่า จํานวน 19 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 57,000 ลิตร
- วันที่ 3 เมษายน เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทําการบินบรรทุกน้ำดับไฟป่า จํานวน 3 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 9,000 ลิตร
- วันที่ 4 เมษายน เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทําการบินบรรทุกน้ำดับไฟป่า จํานวน 12 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 36,000 ลิตร
- วันที่ 5 เมษายน เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทําการบินบรรทุกน้ำดับไฟป่า จํานวน 9 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 27,000 ลิตร
นิพนธ์กล่าวอีกว่าตนมีความเสียใจต่อการสูญเสียผู้ใหญ่บ้านในเหตุการณ์ดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านถือเป็นบุคลากรด่านหน้าที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ราษฎรในแนวกันไฟไปร่วมปฏิบัติงานดับไฟป่าแล้วมีการเสียชีวิต ซึ่งทุกคนต่างเป็นบุคคลที่ทุ่มเทการทำงานและอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ขอเป็นกำลังใจให้แก่ญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้การปฏิบัติงานที่ภารกิจยังไม่แล้วเสร็จนั้น ตนขอกำชับไปยังเจ้าหน้าที่และราษฎรในพื้นที่ รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ ที่เข้าไปปฏิบัติงานให้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยให้มีการประเมินสถานการณ์การปฏิบัติงานทุกระยะเพื่อการเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยและลดการสูญเสียไม่ให้เกิดขึ้นอีก
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าโดยรวม 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนล่าสุด ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า ณ วันที่ 6 เมษายน เวลา 08.00 น. ทุกจังหวัดสถานการณ์ดีขึ้นมาก
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
