แม้ ‘Nike’ จะเป็นแบรนด์รองเท้าชื่อดังที่เหล่าสนีกเกอร์ต้องการเป็นเจ้าของ แต่ไตรมาส 4 กลับต้องเผชิญปัญหาด้านกำไรที่ลดลง เหตุเพราะจัดรายการส่งเสริมการขาย -และลดล้างสต๊อกมากเกินไป พร้อมประกาศปี 2024 เตรียมขึ้นราคาสินค้าชดเชยต้นทุนการผลิต โลจิสติกส์ และค่าแรงที่สูงขึ้น
John Donahoe ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nike กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม Nike ทั่วโลกมีรายได้เพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งต้นทุนการผลิตและค่าแรง ประกอบกับการพยายามจัดการสินค้าในคลัง ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อดึงลูกค้า
สำหรับปีงบประมาณ 2024 คาดการณ์ว่ารายได้จะยังเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว เนื่องจากตลาดในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดที่ทำรายได้หลักให้กับแบรนด์ ยังเจอปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้บริโภคลดค่าใช้จ่าย และเลือกซื้อสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ยิ่งไปกว่านั้น ตลาดสำคัญของ Nike คือจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างมาก และจะสามารถมาทดแทนรายได้ที่หายไปได้
หากเจาะถึงกลยุทธ์การทำตลาดของ Nike ซึ่งเป็นแบรนด์ชุดกีฬาและรองเท้า
ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เนื่องจากการตลาดที่ทรงพลัง ประสบความสำเร็จอย่างมากทั่วโลก โดยกำหนดเป้าหมายไปยังแรงบันดาลใจ ความสะดวกสบาย และค่านิยมทางชาติพันธุ์ของผู้คน เพื่อวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นแบรนด์ในเชิงบวก พร้อมพัฒนาโปรดักต์ด้วยโซลูชันใหม่ๆ เน้นเสนอจุดขายของความเป็นเอกลักษณ์ของ Nike ทำให้หลายคนต้องการซื้อมาครอบครอง
“โดยรวมแล้ว Nike ยังถือเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตมากนัก แต่ในปีหน้าจะต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตขึ้นกว่าเดิม” Neil Saunders นักวิเคราะห์ของ GlobalData Retail กล่าว
อ้างอิง:
- www.reuters.com/business/retail-consumer/nike-beats-quarterly-revenue-estimates-buoyant-sneaker-demand-2023-06-29/
- www.bloomberg.com/news/articles/2023-06-29/nike-shows-sales-strength-profit-falls-just-short-of-estimates?srnd=industries-consumer&sref=CVqPBMVg
- www.wsj.com/articles/nike-nke-q4-earnings-report-2023-56a7d18d?mod=business_lead_pos4