ส่องบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ทั้ง Nike, Intel ไปจนถึง Citi เตรียมลดจำนวนพนักงานลงอีกในปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นแผนลดต้นทุนค่าใช้จ่าย พร้อมนำ AI มาทำงานแทนคน
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2023 มีข่าวบริษัทรายเล็กและรายใหญ่ ทั้งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สื่อ การเงิน และการค้าปลีก ปลดพนักงานเกือบทุกวัน
แต่การปลดพนักงานก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะจบลง เพราะในปี 2024 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาเตรียมลดจำนวนพนักงานลงอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ปี 2023 Google-Microsoft-Meta-Amazon ทยอยเลิกจ้างพนักงานถึง 1 แสนคน กำลังบอกอะไร?
- Hasbro จำใจเลิกจ้างพนักงาน 1,100 คน หลัง My Little Pony และ Transformers ยอดขายลดลง 15%
- ตัดไฟแต่ต้นลม Nio ค่ายรถ EV จีน ปลดสตาร์ทอัพลง 10% ไปจนถึงลดตำแหน่งพนักงาน
จากผลสำรวจ ResumeBuilder ที่ได้พูดคุยกับผู้บริหารประมาณ 900 คนในองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 10 คน ต่างประเมินว่า ธุรกิจมากกว่าครึ่ง หรือราว 50% มีแนวโน้มเลิกจ้างพนักงานลงอีกในปี 2024 โดยอ้างว่ามีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย
อีกด้านหนึ่งบริษัทส่วนใหญ่ต้องการนำ AI เข้ามาทำงานแทนคน เห็นได้จากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Dropbox, Google และ IBM ที่เริ่มนำเทคโนโลยี AI เข้ามาทำงานแทนคนอย่างจริงจัง
มาดูกันว่าในปี 2024 มีบริษัทไหนบ้างที่วางแผนเลิกจ้างพนักงาน เริ่มตั้งแต่
- Nike บริษัทผลิตชุดกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 79,000 คน เริ่มวางแผนลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า และหนึ่งในนั้นได้เตรียมลดจำนวนพนักงานลงอีก โดยยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมากน้อยแค่ไหน พร้อมกับยังเตรียมการนำเทคโนโลยีและ AI เข้ามาช่วยทำงานในกระบวนการผลิตมากขึ้น
- Intel บริษัทผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมเลิกจ้างพนักงานราวๆ 235 คนในปี 2024 ซึ่งเป็นการเลิกจ้างรอบที่ 5 ติดต่อกัน แน่นอนว่าเป็นไปตามกลยุทธ์บริษัทที่ต้องการลดต้นทุนลง โดยโฆษก Intel กล่าวว่า นับเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เราให้ความเชื่อมั่นว่าจะรับผิดชอบพนักงานที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างดี
- Citi เครือธนาคารข้ามชาติยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน หลังจากประกาศแผนยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 2 ทศวรรษ พร้อมลดจำนวนพนักงานลงอีก 10% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพนักงาน กรรมการผู้จัดการ และพนักงานระดับล่างบางส่วน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ‘เจน เฟรเซอร์’ ซีอีโอ เผชิญแรงกดดันในการฟื้นฟูบริษัท พร้อมต้องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อ้างอิง: