นิค บัตเตอร์ นักวิ่งวัย 30 ปี ชาวอังกฤษ อดีตนักธนาคารจากดอร์เซต กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่วิ่งมาราธอนครบ 196 ประเทศทั่วโลก หลังจากที่วิ่งเข้าเส้นชัยที่ประเทศกรีซ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยบัตเตอร์ได้ตัดสินใจลาออกจากงานเมื่อต้นปี 2018 ก่อนจะออกวิ่งระยะทางกว่า 5,130 ไมล์ 5.1 ล้านก้าว และเผาผลาญพลังงาน 1.5 ล้านแคลอรี เพื่อภารกิจวิ่งมาราธอนใน 196 ประเทศ เพื่อระดมทุนได้ทั้งหมด 65,000 ปอนด์ ให้กับมูลนิธิ Prostate Cancer UK เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากในประเทศอังกฤษ
ความท้าทายนี้ของบัตเตอร์ได้รับแรงบันดาลใจจาก เควิน เว็บเบอร์ ที่ถูกตรวจพบว่า เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเมื่อปี 2014 ซึ่งพวกเขาทั้งสองได้วิ่งเข้าเส้นชัยร่วมกันที่ประเทศกรีซเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“หลายคนอาจจะรู้แล้วว่า เควินคือแรงบันดาลใจในการออกเดินทางครั้งนี้ของผม และเขาได้สัญญากับผมไว้ว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อมาวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยกัน ผมมีความสุขมากที่เราได้เฉลิมฉลองชีวิตด้วยกันในวันนี้ ภายในโลกที่งดงามนี้
“ขอบคุณเควินที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของผมให้ดีขึ้น ผมมีแค่ความหวังเดียวคือ ความหวังที่จะให้เควินรอดพ้นจากการเสียชีวิตโดยมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผมคงทำไม่ได้ แต่เราสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วยการร่วมบริจาคในวันนี้”
บัตเตอร์ยังได้เล่าถึงการเดินทางไปวิ่งมาราธอนทั่วโลกผ่านเครื่องบิน 201 ไฟลท์ รถไฟอีก 45 ขบวน รถบัส 15 คัน และแท็กซี่อีก 280 ครั้ง ว่าเขาถูกสุนัขไล่กัด ปล้นด้วยมีด และถูกจับเข้าคุก แต่ก็มีความทรงจำที่งดงามตลอดการเดินทาง
“ผมวิ่งกับผู้คนกว่าพันคนในเอล ซัลวาดอร์ ผมวิ่งอ้อมภูเขาไฟและวิ่งผ่านชายหาดในหมู่เกาะแปซิฟิก”
นอกจากนี้ยังได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของเวลาที่จะตัดสินใจทำอะไรก็ตามในชีวิตผ่าน CNN
“คุณต้องเห็นถึงความสำคัญของเวลา คุณไม่สามารถคาดหวังว่าจะใช้ชีวิตทำสิ่งเหล่านี้ได้ตอนที่คุณเกษียณ คุณต้องออกไปทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำ”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
ภาพ: Nickbutterrun
อ้างอิง: