เกาะที่ห้ามผู้หญิงขึ้นที่ว่านี้ก็คือ ‘เกาะโอกิโนะชิมะ (Okinoshima)’ ส่วนหนึ่งของจังหวัดฟุกุโอกะ ในภูมิภาคคิวชูของญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณทางด้านทิศตะวันออกของทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเกาะแห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกแห่งใหม่ประจำปี 2017
เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมโบราณในช่วงศตวรรษที่ 4-9 โดยมีกฎห้ามผู้หญิงเดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้เป็นอันขาด ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า ชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนเชื่อว่า เกาะเเห่งนี้เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความบริสุทธิ์ เป็นพื้นที่ของนักบวช ผู้ชายเท่านั้นถึงจะขึ้นมาเที่ยวชมบนเกาะแห่งนี้ได้
อีกทั้งยังมีการให้เหตุผลอีกว่า เป็นเพราะผู้หญิงทุกคนมีประจำเดือน ซึ่งเป็นของเสียที่ต้องขับออกจากร่างกาย สิ่งนี้อาจทำให้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีมลทินและมัวหมองลงได้
เกาะโอกิโนะชิมะ ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโอกิสึ (Okitsu Shrine) ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อปกป้องคุ้มครองให้นักเดินเรือและชาวประมงออกแล่นเรือได้อย่างปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการค้าขายกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและชาวเกาหลี
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมจึงมีการค้นพบซากเครื่องปั้นดินเผาและงานฝีมือสมัยโบราณต่างๆ บนเกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การค้าทางทะเลในพื้นที่แถบนี้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในยุคนั้น
ในปัจจุบันเกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของพระนักบวชชินโตจากวัด Munakata Taisha และมีเพียงพระนักบวชของวัดนี้เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าออกจากเกาะเเห่งนี้ได้ตลอดเวลา
กฎระเบียบโบราณที่ยังคงปฏิบัติและสืบทอดต่อกันมาอย่างเคร่งครัดจนถึงปัจจุบัน
กฎเหล็กที่สั่งห้ามผู้หญิงขึ้นเกาะเเห่งนี้โดยเด็ดขาด ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ‘การประกาศให้พื้นที่ที่ดูเหมือนจะกดขี่ความเป็นหญิงและสนับสนุนการเหยียดทางเพศ เหมาะสมที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประจำปีนี้หรือไม่’
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชาวญี่ปุ่นกล่าวว่า “การไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวผู้หญิง เดินทางขึ้นเกาะแห่งนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะเลือกปฏิบัติต่อเพศหญิงแต่อย่างใด แต่การเดินทางข้ามทะเลเพื่อไปยังเกาะแห่งนี้ ค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้หญิง อีกทั้งยังเป็นข้อปฏิบัติและธรรมเนียมโบราณที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายร้อยปี”
นอกจากกฎเหล็กข้างต้นที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามแล้ว ยังมีข้อห้ามบางประการสำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปเยี่ยมชมเกาะแห่งนี้ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอีกด้วย เช่น
ผู้ชายที่เดินทางมาเพื่อที่จะขึ้นเกาะแห่งนี้ทั้งหมดจะต้องงดเว้นการทานเนื้อสัตว์ใหญ่ (สัตว์ 4 เท้า) ในช่วงก่อนวันขึ้นเกาะ อีกทั้งยังจะต้องถอดเสื้อผ้า เปลือยกาย ชำระล้างร่างกายและจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ด้วยน้ำทะเล ก่อนที่จะเดินทางขึ้นเกาะ
อีกทั้งยังห้ามนำสิ่งของใดๆ บนเกาะติดตัวกลับไปด้วย รวมถึงห้ามนำสิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น และได้ยินบนเกาะโอกิโนะชิมะไปเล่าหรือเผยแพร่ต่อโดยเด็ดขาด และก่อนเดินทางกลับขึ้นฝั่ง จะต้องได้รับอนุญาตจากพระนักบวชของศาลเจ้าบนเกาะแห่งนี้เท่านั้น
ถึงแม้ว่า เกาะศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทางศาลเจ้าและรัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงไม่เปิดเกาะแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมบนเกาะตลอดทั้งปีอย่างเเน่นอน เนื่องจากเกรงว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต้องการเดินทางมาเยือนเกาะแห่งนี้ จะทำลายความศักดิ์สิทธิ์และความเงียบสงบบนเกาะไป
ข้อควรทราบอีกประการหนึ่ง สำหรับนักท่องเที่ยว (ผู้ชายเท่านั้น) ที่สนใจอยากจะเดินทางไปเยือนเกาะโอกิโนะชิมะแห่งนี้คือ เกาะศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น (ในวันที่ 27 พ.ค. ของทุกปี) โดยใช้เวลาอยู่บนเกาะได้ราว 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพียง 200 คนเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะในมิติที่กระทบกับหลักคุณค่าสากลในปัจจุบัน อย่างหลักสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกัน แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เกาะแห่งนี้มีคุณค่า มีความสำคัญและผูกโยงอยู่กับประวัติศาสตร์ของดินแดนในแถบนี้ ในมิติของวิถีชีวิต การค้าขาย และการเดินเรือ ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต
Photo: www.okinoshima-heritage.jp
อ้างอิง:
- www.bbc.com/news/world-middle-east-40549909
- www.okinoshima-heritage.jp/en/#
- edition.cnn.com/travel/article/okinoshima-japan-unesco-men-only-island/index.html
- www.yahoo.com/news/no-girls-allowed-japans-men-only-island-gets-084112098.html
- www.independent.co.uk/news/world/asia/okinoshima-becomes-unesco-world-heritage-site-status-sacred-japanese-island-women-banned-a7833011.html