สำนักข่าว Mainichi สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้ต้องหาหญิงวัย 70 ปี รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือวางยาพิษฆ่าสามีคนล่าสุดของเธอ เมื่อปลายปี 2013 และถูกจับกุมได้ในปีต่อมา ขณะที่เข้ารับฟังการไต่สวนและให้การต่อศาลในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ศาลประจำกรุงเกียวโต ซึ่งก่อนหน้านี้เธอยืนกรานว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาโดยตลอด

   ผู้ต้องหาหญิงวัย 70 ปี รายนี้คือ นางจิซาโกะ คะเคฮิ (Chisako Kakehi) ถูกตั้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังมีการตรวจสอบพบว่า นางจิซาโกะมีส่วนพัวพันกับการเสียชีวิตของสามีคนที่ 4 ของเธอ หลังจากแต่งงานกันได้เพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น

     นอกจากนี้ผลการชันสูตรพลิกศพนายอิซาโอะ คะเคฮิ (Isao Kakehi) สามีคนล่าสุดของเธอที่เสียชีวิต เมื่อราวเดือนธันวาคม ปี 2013 พบว่า มีปริมาณสารพิษไซยาไนด์ตกค้างอยู่ในร่างกาย จนนำไปสู่การสืบคดีย้อนหลังเกี่ยวกับการเสียชีวิตของสามีคนก่อนๆ ของเธอ

     นางจิซาโกะให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือฆาตกรรมนายอิซาโอะจริง ด้วยการวางยาพิษให้สามีตัวเอง โดยมูลเหตุจูงใจมาจากการโกรธแค้นที่สามีของเธอไม่ได้ให้ค่าเลี้ยงดูแก่เธอเลยภายหลังจากที่เเต่งงานกัน นอกจากนี้เธอยังรู้สึกน้อยใจหลังจากที่เปรียบเทียบตัวเองกับหญิงสาวคนก่อนหน้าที่สามีของเธอไปพัวพันด้วยว่า ผู้หญิงคนนั้นถูกสามีเอาอกเอาใจและเลี้ยงดูปูเสื่อดีกว่าเธอเสียอีก

     นอกจากนี้เธอยังกล่าวต่อศาลอีกว่า “ถ้าฉันได้รับโทษประหารชีวิต ฉันก็จะหัวเราะใส่ เพราะฉันเตรียมตัวที่จะตายอยู่แล้ว”

 

 

โปรแกรมหาคู่ เงินประกัน และความตาย

     นางจิซาโกะ อดีตเศรษฐีนีชาวญี่ปุ่นรายนี้ มีนิสัยชอบใช้โปรเเกรมนัดเดต หรือโปรเเกรมหาคู่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์และหวังผลประโยชน์จากชายเหล่านั้น โดยผู้ชายที่นางจิซาโกะจะเลือกสานสัมพันธ์ด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นชายสูงอายุวัยระหว่าง 70-80 ปี และที่สำคัญคือ จะต้องไม่มีบุตร

     หลังจากที่พูดคุยกันสักระยะหนึ่งเเล้ว เธอจะเริ่มสานสัมพันธ์ลึกซึ้งและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ จนฝ่ายชายหลงเชื่อ เพื่อหวังเงินประกันจากกรมธรรม์ต่างๆ ที่จะได้หลังจากที่คู่สมรสเสียชีวิต พอฝ่ายชายคนนั้นเสียชีวิต เธอก็จะเดินหน้าค้นหาผู้ชายคนใหม่และกระทำการในลักษณะเดียวกันนี้

     พนักงานอัยการสงสัยว่า เธออาจมีส่วนพัวพันกับการฆาตกรรมสามีคนก่อนๆ ของเธอด้วย หลังจากที่มีการสืบทราบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีของเธอ 1 พันล้านเยน (ราว 300 ล้านบาท) ตลอดช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา

     เจ้าหน้าที่ชันสูตรและพนักงานสืบสวนสอบสวนพบหลักฐานว่า นางจิซาโกะมีส่วนพัวพันกับการฆาตกรรมต่อเนื่องสามีและคนรักของตัวเองถึง 3 คน รวมนายอิซาโอะ สามีคนล่าสุด และมีความเป็นไปได้ว่าเธอจะพยายามฆาตกรรม และยักยอกทรัพย์สามีเก่าอีก 1 ราย ที่ต่อมาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งอีกด้วย โดยตรวจพบร่องรอยของไซยาไนด์ในถังขยะ ภายในที่พักของเธอในกรุงเกียวโต

     นางจิซาโกะ คะเคฮิ จึงได้รับฉายาว่า ‘แม่ม่ายดำ’ เนื่องจากการฆาตกรรมสามีของเธอ ภายหลังจากที่สานสัมพันธ์กันเรียบร้อยเเล้ว มีลักษณะคล้ายคลึงกับลักษณะนิสัยของ ‘เเมงมุมแม่ม่ายดำ (Black Widow)’ ที่มักจะฆ่าหรือกัดกินตัวผู้หลังจากที่มีการสืบพันธุ์กัน

     ถึงแม้ว่าทางทนายของจำเลยวัย 70 ปีรายนี้ จะคัดค้านการให้การของนางจิซาโกะในวันนั้น โดยให้เหตุผลว่า นางจิซาโกะกำลังป่วยด้วยอาการของโรคความจำเสื่อม (Dementia) เธอจะจำอะไรไม่ได้เลยแม้สิ่งนั้นจะเพิ่งเกิดขึ้นก็ตาม การให้การในครั้งน้ันของเธอจึงเป็นการให้การโดยปราศจากสติสัมปชัญญะ ศาลจึงไม่สามารถยึดถือคำให้การดังกล่าวได้

     แต่ทางศาลยังคงยืนยันว่า หากมีการพิสูจน์และตรวจสอบพบว่านางจิซาโกะ เป็นผู้ลงมือกระทำการฆาตกรรมบรรดาเหล่าสามีและคนรักเก่าของเธอจริง เธอจะต้องได้รับโทษประหารชีวิต ตามที่ได้ระบุไว้ในกฎหมายอาญาของประเทศ

     ศาลสูงสุดจะนัดพิจารณาคดีฆาตกรรมต่อเนื่องของนางจิซาโกะครั้งสุดท้าย ภายในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนที่จะประกาศคำพิพากษาอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤศจิกายน

     #เพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

 

Cover Photo: www.telegraph.co.uk

อ้างอิง:

• mainichi.jp/english/articles/20170710/p2a/00m/0na/011000c
• www.bbc.com/news/world-asia-40568607
• www.theguardian.com/world/2017/jul/12/chisako-kakehi-japan-black-widow-confesses-to-killing-fourth-husband
• www.japantimes.co.jp/news/2017/07/10/national/crime-legal/japans-alleged-black-widow-admits-killing-husband/#.WWbapcaB2t9