เหตุการณ์ฆ่ายกครัว 11 ชีวิต ของนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยมี 8 ชีวิต ที่ต้องสังเวยต่อการสังหารของฆาตกรอย่างโหดเหี้ยม ส่วนอีก 3 รายรอดชีวิตมาได้ สร้างความสะเทือนขวัญให้กับสังคมและถูกจับตาอย่างมากในการควานหาคนร้ายเพื่อมารับโทษ เจ้าหน้าที่ทำงานตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ และจนถึงวันนี้ ซึ่ง ผบ.ตร. บินด่วนลงพื้นที่หลายครั้ง และสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุเพื่อมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมได้
THE STANDARD รวบรวมเหตุการณ์นี้มานำเสนอว่า แต่ละช่วงเวลาเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง จนถึงสถานการณ์ล่าสุด
10 ก.ค.:
- สื่อแทบทุกสำนักรายงานข่าวเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อมีกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งบุกไปยังบ้านของ นายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ สังหารนายวรยุทธและสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต รวม 8 ศพ รอดชีวิต 3 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีผู้หญิงและเด็ก โดยการใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะ จากนั้นได้ขโมยยานพาหนะของเจ้าของบ้าน และหลบหนีไป
11 ก.ค.:
- ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่ายกครัว โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาล ต่อมาตำรวจภูธรอ่าวลึกรับแจ้งจากโรงพยาบาลอ่าวลึกว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจึงรุดไปตรวจสอบ
- พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุภายหลังได้รับรายงานเหตุ และได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายประชุม โดยแต่งตั้งให้ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีนี้
- ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ แถลงถึงกรณีที่มีการระบุว่า คนร้ายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ด้วยชุดลายพรางว่า จะต้องตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่
- พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ดำเนินการและรายงานขึ้นมา หากคนร้ายตามที่มีการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องสอบ และหากเป็นจริงจะต้องถูกจับติดคุก
- ร่างของผู้ใหญ่วรยุทธและสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิต รวม 8 ราย ญาติได้ทำพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยเคลื่อนย้ายไปฝังยังกุโบร์บ้านเขางาม ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติและลูกบ้านที่มาร่วมงานจำนวนมาก
- สำหรับแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานไว้หลายประเด็น อาทิ กรณีพิพาทกับชาวบ้านเรื่องหนองน้ำสาธารณะ จนมีคดีความฟ้องร้องกัน กรณีการฟ้องร้องผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง ขัดแย้งเรื่องประทานบัตรโรงโม่หิน ซึ่งผู้ใหญ่อยู่ฝ่ายสนับสนุน กรณีชู้สาว และกรณีการขับไล่ครูที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกนอกพื้นที่
12 ก.ค.:
- ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรอ่าวลึก รวมทั้งชุดสืบสวนกลาง สอบสวนผู้รอดชีวิต จนสามารถสเกตช์ภาพคนร้ายได้ โดยเป็นชายสวมหมวก 1 คน จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับประวัติอาชญากร และขอออกหมายจับตามขั้นตอน
- นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สั่งการให้มีการดูแลรักษาความปลอดภัย พยานผู้รอดชีวิตอย่างเข้มข้นทั้งในบริเวณและนอกบริเวณโรงพยาบาล
- ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 เชิญตัวเศรษฐีนี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่วรยุทธมาสอบถามเพื่อหาความเชื่อมโยง และเบาะแส เพื่อขยายผลหากลุ่มก่อเหตุ
- พล.ท. ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 กล่าวถึงกรณีคนร้ายใส่ชุดลายพรางว่า เชื่อว่าไม่ใช่ทหารแน่นอน หากเป็นจริงจะใส่ชุดไปให้เป็นจุดสังเกตทำไม และปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวโยงกับปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
13 ก.ค.:
- พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.กระบี่ อีกครั้ง ประชุมความคืบหน้าคดีร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง และให้ความมั่นใจว่าจะจับคนร้ายได้แน่นอน พร้อมให้มีการสอบสวนทุกมิติ
- กระทรวงยุติธรรมมอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ลงพื้นที่ตรวจสอบ และประเมินการให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งจะช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างน้อยคนละ 100,000 บาท
- มีรายงานว่า มีการดักจับสัญญาณมือถือของนายวรยุทธได้ บริเวณเขตรอยต่อ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ ซึ่งคนร้ายนำติดมือไปด้วย มีการสั่งการให้ปูพรมลงพื้นที่ตรวจสอบทันที
14 ก.ค.:
- มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมชายต้องสงสัยหนึ่งในทีมสังหาร โดยนำตัวส่ง ผบ.ตร. สอบปากคำที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ในเวลาต่อมา ผบ.ตร. ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้ว่า ไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
15 ก.ค.:
- ผบ.ตร. บินด่วนกลับ จ.กระบี่ อีกครั้ง หลังมีรายงานด่วนว่า ชุดสืบสวนได้เข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก เพื่อสอบขยายผลให้ถึงผู้จ้างวานฆ่า โดยควบคุมตัวมาไว้ที่ค่ายทหาร ร.15 พัน 1 อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ใช้เวลาสอบปากคำตลอดทั้งคืน
- มีรายงานว่า รถโตโยต้า ยาริส ถูกขนย้ายมาจาก จ.นครศรีธรรมราช ถึงค่ายทหารเป็นสีขาว เป็นรถที่ใช้เป็นพาหนะในการเข้าไปก่อเหตุภายในบ้านของนายวรยุทธ
- พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ได้ควบคุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้ 5 ราย โดยอาศัยคำสั่ง คสช. จากการซักถามเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่ามีมูลเหตุมาจากข้อพิพาทที่ดินและหนี้สิน รวมทั้งยึดรถที่ใช้ก่อเหตุได้ 2 คัน พร้อมอาวุธปืน
- สื่อมวลชนจำนวนมากลงพื้นที่เกาะติดรายงานข่าวในพื้นที่
16 ก.ค.:
- เวลาเที่ยงคืนวันดังกล่าว ล่วงเข้าวันใหม่ ผบ.ตร. คุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยออกเดินทางจากค่ายทหารไปยัง อ.เมือง จ.พังงา จุดที่คนร้ายนำรถโตโยต้า ยาริส ไปเผา
- หลังจากนั้นนำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอีกจุด ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้รับสารภาพว่าฝังปืนไว้ในป่ายาง โดยอยู่ในเขต อ.เมือง จ.พังงา และกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในจุดทำแผน
- ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้รวบตัวผู้ต้องหาที่เหลือได้หมดแล้ว ผู้ต้องหาเป็นคนธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องกับทหาร เพียงแต่เอาชุดทหารมาใส่เท่านั้น
- เวลาประมาณ 15.00 น. ผบ.ตร. แถลงข่าว เกี่ยวกับรายละเอียดล่าสุดของคดีนี้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจห้องประชุมพิทักษ์กระบี่ สถานีตำรวจภูธร อ.เมือง จ.กระบี่
ภาพประกอบ: Thiencharas.w