ผู้ว่าฯ กทม. โชว์ ‘ปากคลองตลาดใหม่’ แต่ผู้ค้ายังกังวลคนรับรู้น้อย

ผ่านมาเป็นเวลา 24 วันแล้วที่ ‘ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่’ ได้เปิดทำการเพื่อต้อนรับกลุ่มผู้ค้าเก่า-ใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าปากคลองตลาด เขตพระนคร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและคืนทางเท้าให้กับประชาชน ซึ่งได้มีการประชุมขอความร่วมมือจากผู้ค้าปากคลองตลาดเพื่อจัดระเบียบหลายครั้ง จนกระทั่งยุติการขายในปากคลองตลาดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 และกำลังจะครบรอบ 1 ปีในการจัดระเบียบปิดตำนานปากคลองตลาดในเดือนหน้านี้เอง

วันนี้ (28 มิถุนายน) พ่อเมือง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีกำหนดนัดหมายเดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ค้าปากคลองตลาดที่ย้ายมาทำการที่ศูนย์กลางตลาดแห่งใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดทำการเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา

ผู้ว่าฯ กทม. ให้กำลังใจผู้ค้าที่ย้ายมาใหม่

พล.ต.อ. อัศวิน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเดินทางมาถึงตลาดใหม่ว่า กรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกลุ่มผู้ค้าทั้ง 1,263 รายที่คืนทางเท้าให้กับประชาชน ซึ่งมีบางส่วนย้ายไปทำการค้าที่ตลาดยอดพิมาน ตลาดปากคลองตรีเพชร ตลาดส่งเสริมการเกษตรไทย รวมถึงศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ เขตตลิ่งชัน

การมาลงพื้นที่ในวันนี้ เพราะมีความห่วงใยกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ จึงได้มาเยี่ยมและขอส่งกำลังใจแก่ผู้ค้าที่ย้ายมาทำการค้าที่ตลาดใหม่นี้

“ตลาดใหม่แห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง ปลอดโปร่งโล่งสบาย ผู้ซื้อสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก อีกทั้งมีพื้นที่บริการจอดรถฟรี รองรับได้ 2,000 คัน จึงอยากชวนให้ผู้ค้าเดิมย้ายมายังพื้นที่ใหม่

“ทั้งนี้อยากแนะนำให้ทางเจ้าของศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ ได้ทำเรื่องที่จอดรถให้มีระบบระเบียบมากกว่านี้ เพื่อป้องกันอาชญากรรมอันเกิดจากกรณีที่รถยนต์ของผู้ซื้อสูญหาย โดยใช้บัตรจอดรถแยกระหว่างผู้ค้าและผู้ซื้ออย่างชัดเจน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ตลาดใหม่พื้นที่ 50 ไร่ ให้เช่ากว่า 3 พันแผง

นางสาวใหม่ ติโลกะวิชัย กรรมการผู้จัดการ ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ เปิดเผยว่า ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 มีจุดเด่นคือเป็นศูนย์รวมดอกไม้ค้าปลีก-ค้าส่ง ทั้งดอกไม้ไทยและดอกไม้ต่างประเทศ รวมไปถึงร้านจัดช่อดอกไม้ มาลัย และการแปรรูปดอกไม้ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 50 ไร่ ช่วยลดปัญหาการจราจร เพราะรถที่นำเข้าดอกไม้สามารถเข้ามาจอดที่หลังตลาดและนำดอกไม้ลงได้เลย

โดยมีแผงค้าให้เช่าจำนวน 3,000 แผง ปัจจุบันเปิดให้เช่าแล้ว 1,500 แผง และกำหนดราคาโดยคิดค่าเช่าต่อแผงขั้นต่ำเพียงวันละ 100 บาท หากเป็นแผงหัวมุมอยู่ที่ 120 บาท โดยไม่มีค่าแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มทั้งสิ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ค้าได้มีแผงขายดอกไม้ของตัวเอง ขณะนี้กำลังขยายเฟส 2 และเฟส 3 โดยเฟส 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งภายในศูนย์ฯ ยังมีพื้นที่บริการจอดรถฟรี รองรับได้ 2,000 คัน และมีศูนย์อาหารราคาประหยัด มีห้องน้ำสะอาดฟรีสำหรับผู้เข้ามาใช้บริการ

ทั้งนี้ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ เป็นการร่วมมือกันระหว่างกรุงเทพมหานคร ภาคเอกชน และกลุ่มผู้ค้าปากคลองตลาดเดิมที่รวมตัวกัน ต้องการให้มีการสร้างศูนย์กลางตลาดดอกไม้แห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับผู้ค้าปากคลองตลาดเดิม

ความกังวลของผู้ค้า

ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า มีสัดส่วนผู้ค้าจากปากคลองตลาดเก่าที่ย้ายมายังตลาดใหม่แห่งนี้ประมาณ 200 คน จาก 500 คน และส่วนที่เหลือได้ทยอยไปขายบริเวณพื้นที่อื่นๆ

THE STANDARD ลงพื้นที่ในวันนี้และได้พูดคุยกับผู้ค้าบางส่วนที่มาจากตลาดเดิม รวมทั้งที่เพิ่งเข้ามาเช่าพื้นที่ในตลาดเพื่อเปิดร้านใหม่ ซึ่งไม่ได้มีแค่ร้านขายดอกไม้ แต่ภายในตลาดยังจัดให้มีโซนขายอาหารด้วย

ผู้ค้าดอกไม้รายหนึ่ง (ขอสงวนนามตนเอง) เปิดเผยว่า เพิ่งจะย้ายเข้ามาได้ไม่ถึงเดือน ก็พอมีลูกค้าเดิมตามมาซื้อบ้าง แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลใจในอนาคตถึงกลุ่มลูกค้าและการรู้จักตลาด จึงอยากขอให้ทางกรุงเทพฯ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้จักมากขึ้น

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านขายอาหารแสดงความกังวลใจเช่นเดียวกันว่าจะมีผู้มาใช้บริการตลาดน้อย เพราะตนเองแบกต้นทุนทั้งค่าแผงและค่าใช้จ่ายที่เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร รวมทั้งค่าคนงาน ซึ่งที่ผ่านมา 20 กว่าวัน ยอมรับว่ายังไม่ได้กำไรจากการขาย และขายได้ต่ำกว่าต้นทุนมาก จึงอยากให้ทางกรุงเทพฯ และเจ้าของตลาดเร่งปรับปรุงอุปสรรค ทั้งรถเมล์ การเดินทาง และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ในอนาคต เพื่อดึงให้ลูกค้ามาให้มากขึ้น

ด้านผู้ประกอบการอีกรายที่ขายดอกไม้อยู่ที่ตลาดเดิมมานาน และยึดอาชีพขายดอกไม้มากว่า 30 ปีเปิดเผยว่า ตนเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ย้ายมายังตลาดใหม่ เพราะเมื่อก่อนต้องขายริมฟุตปาธ ซึ่งมีความลำบากพอสมควร เมื่อย้ายมาที่ใหม่ก็ไม่ได้กังวลมาก แต่ก็ยอมรับว่ารายได้ลดลงจากเมื่อก่อน แต่เพิ่งจะย้ายมาได้ 20 กว่าวันก็ต้องพิสูจน์กัน โดยเฉพาะช่วงเข้าพรรษา ซึ่งปริมาณการซื้อดอกไม้จะลดลง ก็จะเป็นบทพิสูจน์ว่าที่ไหนดอกไม้จะเหลือมากกว่ากัน และนั่นจะเป็นคำตอบเองว่าจะไปรอดหรือไม่ อยากฝากมากที่สุดคือฝากให้เร่งประชาสัมพันธ์นั่นเอง

ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องนี้ว่า หากตลาดแห่งนี้ประสบความสำเร็จ กรุงเทพฯ ก็เตรียมที่จะดำเนินการในลักษณะนี้ต่อไปยังพื้นที่จัดระเบียบอื่นๆ อาทิ พื้นที่บริเวณประตูน้ำ สยามสแควร์ แต่ก็อาจติดปัญหาที่กลุ่มผู้ค้าจะมีความไม่พอใจกับพื้นที่ที่ทางกรุงเทพฯ จัดหาให้ ซึ่งตนเองก็เข้าใจในความรู้สึกของผู้ค้า แต่ผู้ค้าเองก็ต้องตระหนักว่าทางเท้าที่มาขายของจะต้องใช้ร่วมกับประชาชนกว่า 10 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

ผู้บริหารตลาดเร่งขจัดปัญหา

นางสาวใหม่ ติโลกะวิชัย ผู้บริหาร เปิดเผยว่า ตลาดใหม่แห่งนี้มีจุดเด่นในด้านของทำเลที่ตั้งที่สามารถเดินทางสะดวก โดยอยู่ห่างจากปากคลองตลาดเดิมประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์-กาญจนาภิเษก สามารถเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนเพชรเกษม และถนนพุทธมณฑล รวมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วนศรีรัช ซึ่งสะดวกรวดเร็วต่อการขนส่งดอกไม้ที่ต้องการความสดใหม่ เพราะทำเลที่ตั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางทั้งจากภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกได้อย่างรวดเร็ว

ตลอดจนยังอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที สะดวกต่อผู้ซื้อและเกษตรกรชาวสวนดอกไม้ในท้องที่จังหวัดต่างๆ ที่อยู่รอบๆ กรุงเทพมหานคร

“ส่วนเรื่องที่จอดรถที่ทางผู้ว่าฯ กทม. แนะนำมานั้น กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเรื่องเทคโนโลยี พร้อมกำลังดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั้งนี้ทางศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ จะขออนุญาตผู้ว่าฯ กทม. ทำศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อที่มาใช้บริการ ณ ที่แห่งนี้ด้วย

“ส่วนเรื่องรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ ปัจจุบันได้มีรถประจำทางของ ขสมก. ผ่านเส้นทางถนนพระเทพฯ หน้าบริเวณตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่ ดังนี้ 1. สาย 89 รถธรรมดา และสาย 89 (ปอ.) รถปรับอากาศ 2. สาย 710 รถธรรมดา 3. สาย 751″ นางสาวใหม่กล่าว