บริษัทโซนี่ ญี่ปุ่น เตรียมผลิตแผ่นเสียงอีกครั้ง หลังหยุดมานานกว่า 30 ปี

บริษัทโซนี่ (Sony) ในประเทศญี่ปุ่น เตรียมกลับมาผลิตแผ่นเสียงออกจำหน่ายอีกครั้ง เนื่องจากกระแสความนิยมเริ่มพุ่งสูงขึ้น หลังเลิกผลิตมานานกว่า 30 ปี

เมื่อวันพฤหัสที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท โซนี่ มิวสิค เอ็นเทอร์เทนเมนต์ ในประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศว่าจะกลับมาผลิตแผ่นเสียงออกวางจำหน่ายอีกคำรบ โดยโรงงานของพวกเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียวจะเริ่มปั๊มแผ่นไวนิลในเดือนมีนาคม ปี 2018 โดยแนวเพลงส่วนใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเริ่มทยอยผลิตออกมาก่อนคือเพลงดังของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในอดีต และเพลงร่วมสมัย

ห่างหายไป 30 ปี เพราะพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคเปลี่ยนไป

จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงในญี่ปุ่นระบุว่า ในช่วงกลางยุค 70s ตลาดเพลงญี่ปุ่นเคยผลิตแผ่นเสียงวางจำหน่ายได้มากถึง 200 ล้านแผ่นเลยทีเดียว!

อย่างไรก็ตาม จากการที่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เป็นผลให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ช่วยอำนวยความสะดวกขึ้นมามากมาย รวมถึงนวัตกรรมการฟังเพลงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ทั้งเทปคาสเซต, แผ่นซีดี, เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา, ไฟล์เพลงสกุลต่างๆ และล่าสุดกับบริการสตรีมมิงเพลงที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ โซนี่เองก็เคยหยุดผลิตแผ่นเสียงออกจำหน่ายมาแล้วครั้งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งในเวลานั้น โฆษกประจำบริษัทได้ออกมาให้เหตุผลของการหยุดผลิตแผ่นไวนิลไว้ว่ามาจากการที่ผู้บริโภคแห่ไปสนใจแผ่นซีดี รวมถึงเทคโนโลยีการฟังเพลงรูปแบบอื่นๆ ที่เเทรกตัวเข้ามา โดยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตแผ่นซีดีแทน ก่อนจะต้องหลีกทางให้กับพฤติกรรมการฟังเพลงแบบดาวน์โหลดและสตรีมมิงอีกครา

เทรนด์เเผ่นเสียงกลับมา เหล่าผู้ผลิตจึงหวนคืน!

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่คิดที่จะกลับมาเริ่มปั๊มแผ่นไวนิลออกจำหน่ายอีกครั้ง เป็นเพราะความต้องการของตลาดแผ่นเสียงในเวลานี้ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นเดอะเท่านั้น เพราะคนหนุ่มคนสาวในปัจจุบันก็หันมาสะสมแผ่นเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Deloitte บริษัทรับให้คำปรึกษาทางธุรกิจได้ประมาณการไว้ว่า ในปี 2017 นี้ รายได้ของตลาดแผ่นเสียงทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท และมองว่ายอดดาวน์โหลดเพลงแบบดิจิทัล รวมถึงยอดขายแผ่นซีดีเพลงจะตกลง

ด้านหนังสือพิมพ์ Nikkei ในญี่ปุ่นรายงานว่า โรงงานผู้ผลิตแผ่นเสียงรายเดียวในประเทศตอนนี้อย่าง Toyokasei กำลังดิ้นรนอย่างหนักกับการฟื้นตัวของความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของตลาดแผ่นไวนิล

ขณะที่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทพานาโซนิค (Panasonic) ก็เพิ่งจะกลับมาผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียงในตำนาน ‘Technics SL-1200’ ออกจำหน่ายอีกครั้งตอบรับกระแสความนิยมแผ่นเสียงที่กำลังมา

เช่นเดียวกับโซนี่ที่ต้องเปิดศึกแย่งชิงวิศวกรอาวุโสผู้มีความชำนาญในการผลิตแผ่นเสียงมาร่วมงานด้วย โดย ณ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าโซนี่จะผลิตแผ่นเสียงของเพลงประเภทใดออกจำหน่ายกันแน่ แต่ Nikkei เชื่อว่าแนวเพลงที่พวกเขาจะเริ่มกลับมาผลิตลงเเผ่นไวนิลอีกครั้งคือเพลงญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในอดีต รวมถึงเพลงที่เป็นลิขสิทธิ์ของพวกเขา เช่นเดียวกับอัลบั้มเพลงร่วมสมัยที่คนชื่นชอบ

มิชิโนริ มิซูโนะ (Michinori Mizuno) ผู้บริหารสูงสุดประจำบริษัท โซนี่ มิวสิค เอ็นเทอร์เทนเมนต์ กล่าวว่า “เด็กวัยรุ่นจำนวนมากในวันนี้เลือกซื้อแผ่นเสียงจากเพลงที่พวกเขาได้ยินในสตรีมมิงมิวสิก”
ข้อมูลที่น่าสนใจของการขายแผ่นเสียงที่สหราชอาณาจักรระบุว่า ตลาดแผ่นเสียงของพวกเขาในช่วงปีที่ผ่านมาสามารถทำรายรับได้มากกว่ายอดโฆษณาทั้งหมดที่สนับสนุนแพลตฟอร์มดนตรีสตรีมมิงด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยอดขายแผ่นเสียงทั้งปีที่ผ่านมาของประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรยังรวมกันได้มากกว่า 17.2 ล้านแผ่นเลยทีเดียว โดยผู้บริโภคจำนวน 70 เปอร์เซ็นต์เป็นคนที่อายุน้อยกว่า 35 ปี

สำหรับประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสความนิยมของการสะสมแผ่นเสียงก็เริ่มกลับมาบูมไม่แพ้กัน มีร้านค้าแผ่นเสียงมือสองหน้าใหม่จำนวนไม่น้อยที่ทยอยเปิดตัวกันอย่างแพร่หลาย ศิลปินบางวงก็ยังคงปล่อยอัลบั้มบนสตรีมมิงมิวสิก ซีดี รวมไปถึงการปล่อยแผ่นเสียงออกมา ขณะที่แผ่นเสียงบางคอลเล็กชันก็มีมูลค่าขายต่อที่สูงเอาเรื่องเช่นกัน ช่วงเวลานี้จึงน่าจับตาไม่น้อยว่าตลาดแผ่นเสียงจะงัดกับสตรีมมิงมิวสิกได้หรือไม่ และใครจะเป็นผู้อยู่รอด

หรือท้ายที่สุดแล้ว ตลาดการเสพดนตรีทั้งสองแบบล้วนแล้วแต่แบ่งสรรปันส่วนกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง?

อ้างอิง: