ในปัจจุบัน สถานการณ์ทั่วโลกกำลังระส่ำระสาย หลายๆ ประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศในโซนตะวันออกกลางที่มีเหตุความวุ่นวายและสงครามเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เป็นประจำ ส่งผลให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ความวุ่นวายจำนวนไม่น้อยที่ต้องอพยพถิ่นฐานเพื่อความปลอดภัยในชีวิต
โดยข้อมูลจาก UNHCR (The UN Refugee Agency) หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุว่า ปี 2016 ที่ผ่านมา มีจำนวนประชากรที่ต้องย้ายถิ่นฐานจากสาเหตุความขัดแย้งและสงครามมากถึง 65.6 ล้านคน
ภายใต้ความร่วมมือตั้งแต่ปีที่แล้วระหว่างไมโครซอฟต์ (Microsoft) บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีและระบบปฏิบัติการวินโดว์ส (Windows) และแอ็กเซนเจอร์ (Accenture PLC) บริษัทรับให้คำปรึกษาด้านข้อมูล กลยุทธ์ และเทคโนโลยี ล่าสุดพวกเขาเตรียมพัฒนาบัตรประชาชนบนระบบดิจิทัลผ่านรูปแบบ Blockchain ให้กับผู้อพยพและคนไร้เอกสารระบุตัวตนแล้ว (ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการเนื่องจากอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา)
บัตรประชาชนดิจิทัลที่จะช่วยเหลือผู้อพยพคนพลัดถิ่นกว่า 1.1 พันล้านคนให้เข้าถึงการศึกษาและการรักษาพยาบาล
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้การสนับสนุนโดยสหประชาชาติ ในการจัดหาเอกสารระบุตัวตนอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้กับประชากรกว่า 1.1 พันล้านคนที่ไร้เอกสารดังกล่าว
ทั้งไมโครซอฟต์และแอ็กเซนเจอร์ได้เปิดเผยระบบตัวอย่างคร่าวๆ ของบัตรประชาชนดังกล่าวในระหว่างการประชุม ‘ID2020’ ที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการที่กลุ่มภาครัฐและเอกชนให้ความสนับสนุนและความร่วมมือสหประชาชาติกับเป้าหมายการจัดหาเอกสารระบุตัวตนอย่างถูกต้องตามกฎหมายให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ภายในปี 2030
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อพยพ ซึ่งบัตรประชาชนแบบดิจิทัลนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงระบบบริการเบื้องต้นที่พึงจะได้รับ เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาล การทำธุรกรรม และการใช้สิทธิในการออกเสียงได้
ระบบบัตรประชาชนดิจิทัลที่พัฒนาโดยไมโครซอฟต์และแอ็กเซนเจอร์นี้จะใช้เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบ Blockchain ซึ่งจะให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัว รวมถึงยังสามารถเก็บข้อมูลได้ตลอดเวลา (ไม่มีการติดตามข้อมูลหรือสอดแนมผู้ใช้งาน) โดยที่เจ้าของบัตรจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพียงคนเดียวเท่านั้นผ่านอัตลักษณ์ทางชีวภาพของแต่ละบุคคลด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ และระบบสแกนม่านตา
ตัวอย่างการใช้งานเบื้องต้น เช่น เมื่อมีใครสักคนเดินทางมาที่เขตแดนระหว่างประเทศ บัตรประชาชนดิจิทัลนี้จะสามารถระบุตัวตนแบบสากลได้ว่าคนคน นั้นเป็นใคร เดินทางมาจากไหน และสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเขาหรือเธอมาจากแคมป์ผู้อพยพที่ต้องการความช่วยเหลือจริงหรือไม่ หรือสำหรับคนพลัดถิ่นก็สามารถใช้บัตรประชาชนดิจิทัลในการเรียกดูประวัติการศึกษาได้ทันที
เดวิด ทรีต (David Treat) กรรมการผู้จัดการบริษัทแอ็กเซนเจอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “หากปราศจากการระบุตัวตน คุณจะไม่มีสิทธิในการเข้าถึงระบบการศึกษา การเงิน และการรับการรักษา ซึ่งจะทำให้คุณถูกกีดกันและไม่ได้รับโอกาสจากสังคม ซึ่งการสามารถระบุตัวตนแบบดิจิทัลคือสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์”
ขณะที่ดาโกตา กรูเนอร์ (Dakota Gruener) กรรมการบริหารโครงการ ID2020 กล่าวว่า “สิ่งที่ ID2020 ให้ความสำคัญคือการสร้างพันธมิตรของกลุ่มผู้ที่ถือผลประโยชน์ร่วมกัน (ทางเทคโนโลยี) และเพื่อทำให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้นจะตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์แต่ละคนได้จริงๆ”
ตัวอย่างของบัตรประชาชนดิจิทัลนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มของแอ็กเซนเจอร์ โดยคาดว่าหากแล้วเสร็จจะสามารถช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อผู้อพยพและผู้พลัดถิ่นได้อย่างมหาศาล เพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai
อ้างอิง:
