×

คุณจะถูก AI แย่งงานเมื่อไร?

20.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • มีโอกาส 50% ที่เครื่องจักรจะสามารถทดแทนอาชีพของมนุษย์ได้ใน 120 ปี
  • นักวิจัยคาดการณ์ว่า AI จะสามารถขับรถบรรทุกได้ในปี 2027 และทำงานค้าปลีกได้ในปี 2031
  • AI จะสามารถเขียนนิยายที่ขึ้น The New York Times Best Seller ได้ในปี 2049
  • การใช้เทคโนโลยีเสมือนมนุษย์ จริงๆ แล้วจะทำให้เกิดงานมากขึ้น และช่วยให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ให้ผลคุ้มค่ากว่า เช่น งานด้านความคิดสร้างสรรค์ หรือการแก้ปัญหา

     AI ญี่ปุ่นร่วมเขียนนิยายที่เกือบจะชนะรางวัล

     AlphaGo โปรแกรม AI ของกูเกิลเอาชนะลีเซดล โปรหมากล้อมโลก

     AP ใช้โปรแกรมในการเขียนข่าวกีฬาเบสบอล

     เราทุกคนต่างรู้ว่าสักวันหนึ่งงานของเราคงจะถูก AI แย่งไป แต่เมื่อไรกันล่ะ!?

     ถึงแม้จะไม่ได้มีคำตอบตายตัว แต่ก็มีการคาดการณ์กันต่างๆ นานา ถึงระยะเวลาที่ AI จะเข้ามาแทนที่สายงานต่างๆ

มีโอกาส 50% ที่เครื่องจักรจะสามารถทดแทนอาชีพของมนุษย์ได้ใน 120 ปี

 

     คัตจา เกรซ (Katja Grace) นักวิจัยของ University of Oxford’s Future of Humanity Institute และผู้ร่วมงานจากโครงการ AI Impact และ The Machine Intelligence Research Institute (MIRI) ได้ทำการสำรวจผู้เชี่ยวชาญ 352 คน รวมถึง ยานน์ ลูกอง (Yann LeCun) ผู้อำนวยการการวิจัย AI เฟซบุ๊ก, มุสตาฟา สุลัยมาน (Mustafa Suleyman) จาก Google’s DeepMind และโซวบิน กวาห์รามานี (Zoubin Ghahramani) ผู้อำนวยการแล็บ AI อูเบอร์

     ทีมวิจัยได้นำคำตอบที่รวบรวมได้มาคาดการณ์ว่า เมื่อไรกันที่เครื่องจักรจะทำงานต่างๆ ได้ดีกว่ามนุษย์

 

ที่มา: www.openculture.com

 

     “หนึ่งในเรื่องที่แปลกใจมากๆ คือ จากการคาดการณ์มันจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่เราคิด” เกรซกล่าว

     ข่าวดีก็คืองานของพวกเราหลายคนจะยังปลอดภัยในอนาคตที่จะมาถึง

     ทีมวิจัยคาดการณ์ว่ามีโอกาส 50% ที่เครื่องจักรจะสามารถทดแทนอาชีพของมนุษย์ได้ใน 120 ปี

 

เครื่องจักรจะทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้น?

     ผลสำรวจบ่งบอกว่าเครื่องจักรจะสามารถพับผ้าได้ภายในปี 2021 หรือนี่จะเป็นสัญญาณว่าหากคุณทำงานซักรีด นี่อาจจะถึงเวลาที่คุณต้องเตรียมมองหางานใหม่แล้ว?

     ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น

     หุ่นยนต์ที่สามารถพับผ้าได้ถูกสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้วที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ หุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถพับผ้าเช็ดตัว กางเกงยีนส์ และเสื้อยืดได้อย่างเรียบร้อย แต่ในปี 2010 มันต้องใช้เวลามากถึง 19 นาทีเลยทีเดียวที่จะหยิบเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมา ตรวจสอบชนิดเสื้อผ้า แล้วจึงจะลงมือพับ ต่อมาในปี 2012 มันสามารถพับกางเกงยีนส์หนึ่งตัวได้ใน 5 นาที และสามารถพับเสื้อยืดหนึ่งตัวในเวลาประมาณ 6 นาที

นักวิจัยคาดการณ์ว่า AI จะสามารถขับรถบรรทุกได้ในปี 2027 และทำงานค้าปลีกได้ในปี 2031

ที่มา: www.bbc.com

 

     ถึงแม้หุ่นยนต์จะถูกพัฒนาไปอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าหุ่นยนต์ประเภทนี้จะสามารถแทนที่มนุษย์ได้

     “การทดลองในแล็บก็เรื่องหนึ่ง แต่ในชีวิตประจำวัน การจะให้หุ่นยนต์ทำงานจริงๆ แทนงานที่มนุษย์ทำอยู่ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” เจเรมี วัตต์ (Jeremy Wyatt) ศาสตราจารย์ด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม กล่าวเช่นนั้น

     การจัดการกับวัตถุทางกายภาพในชีวิตประจำวัน การตัดสินใจว่าจะจัดการกับวัตถุอันไหน และจัดการอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เป็นงานที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเครื่องจักร

     พนักงานขับรถบรรทุก และผู้ขายปลีกอาจจะต้องพิจารณาอาชีพของตนใน 2 ทศวรรษที่กำลังจะมาถึง นักวิจัยคาดการณ์ว่า AI จะสามารถขับรถบรรทุกได้ในปี 2027 และทำงานค้าปลีกได้ในปี 2031

 

 

     การมีพนักงานที่เป็นมนุษย์หน้าตายิ้มแย้มช่วยหากางเกงยีนส์ไซส์ที่คุณต้องการ และช่วยบอกว่ากางเกงแบบไหนจะเหมาะกับคุณ งานเหล่านี้เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะทางกายภาพและทักษะการสื่อสารที่ซับซ้อน จึงอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นงานที่ยังคงปลอดภัยอยู่สักพัก

     แต่อย่างไรก็ตาม คนจำนวนมากเริ่มหันไปช้อปปิ้งออนไลน์ อาจทำให้ AI ในรูปของบอทและอัลกอริทึมสามารถทดแทนงานอื่นๆ ในร้านค้าปลีกได้เร็วกว่าที่เราคิด

     “ดูสิว่ามีการทำธุรกรรมออนไลน์มากแค่ไหน มันถือเป็นสัดส่วนที่มีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว และตอนนี้พวกเขาก็ได้ใช้ AI เป็นจำนวนมากแล้ว”

คอมพิวเตอร์ AI จะสามารถเขียนนิยายที่ขึ้น The New York Times Best Seller ได้ในปี 2049

อย่ากลัวไปเลย…มนุษย์

     ดูเหมือนว่างานที่ยากที่สุดสำหรับเครื่องจักรคืองานที่มนุษย์ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ในการฝึกฝน คอมพิวเตอร์ยังคงมีปัญหากับงานที่ต้องอาศัยสัญชาตญาณการตัดสินใจ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน และการคิดในเชิงรูปธรรม

     ผู้เชี่ยวชาญทำนายว่า หุ่นยนต์จะไม่สามารถทำงานแทนศัลยแพทย์ได้จนกระทั่งประมาณปี 2053 แต่สำหรับนักคณิตศาสตร์แล้ว เครื่องจักรอาจจะต้องใช้เวลาถึง 43 ปีจึงจะสามารถแข่งกับมนุษย์ได้

     นักวิจัยยังทำนายอีกว่าคอมพิวเตอร์ AI จะสามารถเขียนนิยายที่ขึ้น The New York Times Best Seller ได้ในปี 2049

     กูเกิ้ลได้ฝึกให้ AI เขียนนิยายโรแมนติกและบทความข่าว โดยพยายามจะช่วยให้มันสามารถเขียนได้สร้างสรรค์ขึ้น

     หรือ AI บอทที่มีชื่อว่า ‘เบนจามิน’ สามารถเขียนสคริปต์หนังไซไฟ แม้จะออกมาไม่สมเหตุสมผลเลยก็ตาม

 

หุ่นยนต์เขียนนิยายได้แล้ว?

     Automated Insights เป็นองค์กรที่สร้างอัลกอลิทึมที่สามารถ personalised หรือเลือกข่าวตามความสนใจของผู้อ่านแต่ละคน เขียนคอลัมน์การเงินและคอลัมน์กีฬาให้สำนักข่าวอย่าง Reuters และ AP  

ยังต้องใช้เวลาอีก 30 ปี คอมพิวเตอร์จึงจะสามารถผลิตนิยายขายดีที่เต็มไปด้วยการเล่นคำ การหักมุม และวิธีการเล่าเรื่องที่กระตุ้นความสนใจผู้อ่าน

 

     อดัม สมิธ (Adam Smith) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ Automated Insights กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม ไม่ใช่การนำมาแทนที่ความสามารถมนุษย์

     “ในด้านวารสารศาสตร์ Automated กำลังสร้างคอนเทนต์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่มนุษย์ก็ยังต้องเพิ่มเติมบริบทเข้าไปในเรื่องราวที่เขียน”

     อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นตามสูตรสำเร็จ นั่นคือข้อมูลจะถูกดึงจากเซตของ Large Data และถูกจัดวางตามสูตรนิยายที่ตั้งค่าไว้ ยังต้องใช้เวลาอีก 30 ปี คอมพิวเตอร์จึงจะสามารถผลิตนิยายขายดีที่เต็มไปด้วยการเล่นคำ การหักมุม และวิธีการเล่าเรื่องที่กระตุ้นความสนใจผู้อ่าน

ในหลายๆ เคส AI ถูกนำมาเพื่อขยายขอบเขตการทำงานของมนุษย์ มากกว่าที่จะนำมาทดแทน

ขยายขอบเขตงานของมนุษย์

     ผู้เชี่ยวชาญบางคนเสนอว่า ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการทำให้งานที่ซับซ้อนกลายเป็นระบบอัตโนมัติได้นั้น จะเป็นภัยคุกคามต่ออาชีพอย่างทนายความ อาจารย์ นักวิเคราะห์นโยบาย หรือแม้แต่นักข่าว แต่ในหลายๆ เคส AI ถูกนำมาเพื่อขยายขอบเขตการทำงานของมนุษย์ มากกว่าที่จะนำมาทดแทน

     เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าว The Associated Press (AP) มีการรายงานข่าวโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทำให้องค์กรสามารถทำข่าวที่ไม่สามารถทำได้ในอดีต เช่น Minor League Baseball และยังสามารถรายงานข่าวในพื้นที่ได้ในบางกรณี

     ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีเสมือนมนุษย์ (Cognitive Technologies) สามารถปิดช่องว่างระหว่างมนุษย์และงานด้านดิจิทัล ซึ่งทั้งสองฝั่งไม่สามารถทำได้เองโดยตรง นี่ไม่ใช่การแทนที่อาชีพของมนุษย์ แต่เป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถขยายขอบเขตงานของมนุษย์

ไม่มีงานใดที่มนุษย์ทำได้ แล้ว AI จะทำไม่ได้ แต่งานบางงานจะไม่มีวันถูกแทนที่โดยเครื่องจักร

 

มนุษย์เข้าใจมนุษย์

     เครื่องจักรไม่ได้เข้าใจมนุษย์ในระดับอารมณ์หรือระดับสัญชาตญาณ แต่มันสามารถช่วยให้ ‘เพื่อนร่วมงาน’ ที่เป็นมนุษย์เข้าใจลูกค้าได้มากขึ้นผ่านข้อมูลเชิงวิเคราะห์

     การทำเช่นนี้ทำให้อาชีพต่างๆ สามารถโฟกัสไปที่งานอื่นๆ ได้ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ หรือการแก้ปัญหา

     งานวิจัยล่าสุดจาก Forrester สนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้ การใช้เทคโนโลยีเสมือนมนุษย์จริงๆ แล้วจะทำให้เกิดงานมากขึ้น และทำให้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่ามีเวลาไปโฟกัสกับงานที่ให้ผลคุ้มค่ากว่า

     อีกสิ่งที่มนุษย์เหนือกว่าคือ ความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อลูกค้าติดต่อกับบริษัท ถึงแม้จะได้รับคำตอบที่แสดงความเห็นอกเห็นใจกลับมา แต่ลูกค้าก็รู้สึกได้ว่าบริษัทไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

     การให้มนุษย์ซึ่งมีทักษะด้านการปฏิสัมพันธ์มาทำงานที่เครื่องจักรทำได้ดี เช่น งานที่เป็นการใช้แรงงาน หรืองานที่มีรูปแบบซ้ำๆ ถือเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรมนุษย์ แต่การใช้เครื่องจักรมากไปอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกห่างเหิน ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญต่อความสำเร็จก็คือการหาบาลานซ์ระหว่างเครื่องจักรและมนุษย์

     เกรซเชื่อว่าไม่มีงานใดที่มนุษย์ทำได้ แล้ว AI จะทำไม่ได้

     แต่เธอเชื่อว่างานบางงานจะไม่มีวันถูกแทนที่โดยเครื่องจักร

     นักเทศน์ในโบสถ์จะไม่ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ถ้าคนที่ไปโบสถ์ยังคงต้องการนักเทศน์ที่เป็นมนุษย์จริงๆ

 

Photo: AFP

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising