×

ราคา ซื้อ-ขาย นักเตะสูงเกินจริง? ฟุตบอลในยุคอัตราเงินเฟ้อรุนแรง

27.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เตรียมคว้าตัว เนย์มาร์ จากบาร์เซโลนา ด้วยดีลประวัติศาสตร์ค่าตัวสถิติโลกที่ 196 ล้านปอนด์
  • เรอัล มาดริด เศรษฐียักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุเตรียมทุ่มเงินกว่า 187 ล้านปอนด์ คว้าตัว คีเลียน เอ็มบัปเป จากโมนาโก
  • พรีเมียร์ลีกอังกฤษ​ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ที่มีชื่อว่า Hyperinflation หรืออัตราเงินเฟ้อรุนแรง โดยราคานักเตะจะขึ้นราคาจากที่ตั้งไว้อย่างน้อย 40-50%
  • อัตราเงินเฟ้อในตลาดซื้อ-ขายนักเตะอาจส่งผลให้แฟนบอลไม่สามารถรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของนักเตะแต่ละคนได้ และส่งผลให้เกิดความคาดหวังสูงตามจำนวนเงิน เช่น ดีลสถิติโลกล่าสุดอย่าง พอล ป็อกบา ซึ่งหากสามารถทำผลงานได้ดีก็ถือว่าเสมอตัว แต่หากไม่ประสบความสำเร็จก็ถือว่าขาดทุน

     ‘Breaking News บาร์เซโลนา ยอมปล่อยเนย์มาร์ด้วยค่าตัวสถิติโลก 196 ล้านปอนด์’ เป็นหัวข้อที่แฟนๆ หลายคนรอติดตามโดยเฉพาะแฟนคลับของทั้ง 2 ทีม แต่ระหว่างที่เราเพิ่งเริ่มต้นบทความนี้ ก็มี ‘Breaking News เรอัล มาดริด ยอมจ่าย 187 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว คีเลียน เอ็มบัปเป จากโมนาโก’ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเตรียมทำลายสถิติโลกด้วยเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 150 ล้านปอนด์กันอย่างบ้าคลั่งในตลาดซื้อขายนักเตะของทวีปยุโรป ซึ่งยังเหลือเวลาถึงวันที่ 31 สิงหาคมก่อนตลาดจะปิดลง

 

เนย์มาร์ ว่าที่นักเตะที่มีราคาสูงที่สุดในโลกคนใหม่ (Photo: Toru YAMANAKA/AFP)

 

     โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งฤดูกาลนี้ใช้เงินไปอย่างมหาศาลด้วยการเซ็นศูนย์หน้าชาวเบลเยียมมาด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ก็ยอมรับว่า ตลาดซื้อ-ขายครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความบ้าคลั่ง โดยสโมสรต่างๆ ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อตัวนักเตะเกรดเอ ซึ่งผลกระทบนี้ทำให้เขาต้องพิจารณาอย่างหนักในการลดเป้าหมายนักเตะจาก 4 คน เหลือเพียง 3 คน เนื่องจากราคาของนักเตะที่พุ่งไปตามอัตราเงินเฟ้อของตลาดซื้อ-ขาย

     โดยปัญหาที่เกิดขึ้น มูรินโญ มองว่า เกิดขึ้นจากมุมมองของแต่ละสโมสรเกี่ยวกับตลาดซื้อ-ขายนักเตะที่มีไม่เหมือนกัน โดย Telegraph สันนิษฐานว่า มูรินโญกำลังกล่าวถึงคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งปิดดีลกับ ไคล์ วอลเกอร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษในราคาสูงถึง 50 ล้านปอนด์ รวมถึงมีข่าวกับ คีเลียน เอ็มบัปเป ซึ่งเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจต้องทุ่มเงินจำนวนสูงกว่าสถิติโลกเพื่อคว้าตัวมาให้ได้

     เช่นเดียวกับ ดาเนียล เลวี ประธานสโมสรท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเป็นกังวลต่อสถานการณ์ของตลาดซื้อขายนักเตะในขณะนี้

     “พวกเรามีหน้าที่บริหารทีมให้เหมาะสม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น การทุ่มเงินเกือบ 200 ล้านปอนด์ ซึ่งอาจจะมากกว่ารายได้ของทีม ดูเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว และอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับระบบการเงินของทีมในอนาคต”

 

โรเมลู ลูกากู นักเตะที่มีราคาสูงที่สุดในเกาะอังกฤษในตลาดซื้อขายนักเตะ 2017 (Photo: AARON M.SPRECHER/AFP)

 

สโมสรเริ่มใช้เงินมากขึ้นจากรายได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดที่มากขึ้น

     ตัวอย่างของเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นชัดเจนที่สุดคือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ​ โดยตลาดซื้อ-ขายนักเตะครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเจรจาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขัน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 5,136 ล้านปอนด์ สูงขึ้นกว่า 71% จากปี 2013 ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะผ่านทางค่าลิขสิทธิ์ที่มอบให้แต่ละสโมสรอย่างมหาศาล โดยสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั้ง 3 ปี เริ่มต้นฤดูกาลแรกในปี 2016-2017 ส่งผลให้จำนวนเงินที่สโมสรในพรีเมียร์ลีกจะได้รับทั้งหมดสูงขึ้นจาก 1,640 ล้านปอนด์ เป็น 2,400 ล้านปอนด์

 

มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษตั้งแต่ปี 1993-2016 (ที่มา: BBC)

 

     ในตลาดซื้อขายนักเตะปี 2014 โรเมลู ลูกากู ในวัย 21 ปี ถูกเชลซีขายให้กับเอฟเวอร์ตันในราคา 28 ล้านปอนด์ และล่าสุด ศูนย์หน้าชาวเบลเยียมก็ถูกขายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในราคา 75 ล้านปอนด์ เท่ากับว่ามูลค่าของลูกากูสูงขึ้นถึง 168% ภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น

     “รายได้ของสโมสรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุหลักมาจากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีกในเวลานี้มีเงินมากขึ้น และพวกเขาพร้อมที่จะใช้จ่ายไปกับการซื้อตัวนักเตะ” คริส สเตนสัน ที่ปรึกษาอาวุโสของ Deloitte บริษัทวิเคราะห์การเงินได้กล่าวถึงปรากฏการณ์ Hyperinflation ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะของพรีเมียร์ลีก หรือมูลค่านักเตะที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 40-50%

 

ยอดรวมมูลค่าการซื้อตัวนักเตะของพรีเมียร์ลีกในแต่ละฤดูกาล (ที่มา: BBC)

 

     “พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่มีรายได้มากที่สุดในโลก และสามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้สนับสนุนเข้ามาร่วมลงทุน ในเวลานี้สโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษใช้เงินไปแล้ว 500 ล้านปอนด์ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ในเวลานี้ทั้งลีกใช้เงินรวมกันทั้งหมดเพียง 340 ล้านปอนด์”

 

 

30 ล้านปอนด์คือฐานใหม่ของราคานักเตะ?

     ราคานักเตะที่ 30 ล้านปอนด์อาจจะกลายเป็นฐานใหม่สำหรับการซื้อตัวนักเตะใหม่เข้าสโมสร เนื่องจากดีลที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่นั้นมีฐานอยู่ที่ 30 ล้านปอนด์ จอร์แดน ลี พิคฟอร์ด กลายเป็นผู้รักษาประตูชาวอังกฤษที่มีราคาแพงที่สุด หลังจากเอฟเวอร์ตันยอมจ่ายเงินจำนวน 25 ล้านปอนด์ ซึ่งรวมข้อตกลงต่างๆ แล้วจะมีราคาสูงถึง 30 ล้านปอนด์ เช่นเดียวกับการซื้อตัว ไมเคิล คีน กองหลังชาวอังกฤษวัย 23 ปี เอฟเวอร์ตันต้องจ่ายเงินถึง 30 ล้านปอนด์ในการดึงตัว คีน จาก เบิร์นลีย์

     แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมในการรับชมการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งผู้ถือลิขสิทธิ์เจ้าใหญ่อย่าง SKY และ BT Sport ในประเทศอังกฤษ​ไม่ได้ยอดผู้ชมตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้คาดว่าราคานักเตะจะไม่สูงขึ้นในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า และน่าสนใจว่าในยุคที่ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีรายได้ลดลง ราคานักเตะจะลดลงตามรายได้ของการแข่งขันหรือไม่

 

อัตราเงินเฟ้อกับความคาดหวังของแฟนบอล

     ด้วยมูลค่าของนักเตะที่เพิ่มขึ้นทุกวัน อาจจะทำให้แฟนบอลคาดหวังกับตัวนักเตะตามราคาที่สูงขึ้น ไม่ต่างกับชีวิตประจำวันซึ่งเรามีความคาดหวังสูงกับของซึ่งมีราคาแพง แต่แท้จริงแล้วราคาของนักเตะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่มีเงินลงทุนทั้งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและผู้สนับสนุนไหลเข้ามาอย่างมหาศาล ส่งผลให้ฐานต่ำสุดของนักเตะในอังกฤษตอนนี้อาจจะสูงถึง 30 ล้านปอนด์แล้ว

     แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การที่ผลการแข่งขันคาดเดาได้ยากกว่าลีกอื่นๆ ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นทุกปี แต่หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สโมสรซึ่งมีเงินทุนหรือแผนการตลาดที่น้อยกว่าสโมสรใหญ่ อาจถูกตัดโอกาสการคว้าตัวนักเตะที่มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายการแข่งขันในลีกจะมีเพียงแค่สโมสรที่มีเงินทุนมหาศาลมาขับเคี่ยวแย่งแชมป์และพื้นที่ฟุตบอลยุโรปกันเท่านั้น

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising