×

อื้อฉาว! เจ้าชายวิลเลียม และ เดวิด คาเมรอน มีเอี่ยวล็อบบี้เจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018

28.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และอดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ถูกพาดพิงในรายงานสืบสวนการคอรัปชันของฟีฟ่า ‘การ์เซีย รีพอร์ต’ ว่ามีส่วนร่วมในการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยถูกกล่าวหาว่า เดวิด คาเมรอน ขอให้ ชุงมองจุน รองประธานฟีฟ่าชาวเกาหลีใต้ ช่วยโหวตให้อังกฤษเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018

     การเปิดเผยเอกสาร ‘การ์เซีย รีพอร์ต’ โดยหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ บิลด์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาส่งผลให้ทีมงานเสนอตัวเป็นเจ้าฟุตบอลโลก 2018 ของอังกฤษ ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก

     โดยเรื่องอื้อฉาวล่าสุดที่พบในรายงาน 422 หน้า ซึ่งจัดทำโดย ไมเคิล การ์เซีย อดีตเจ้าหน้าที่ของฟีฟ่าที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสอบสวนความไม่โปร่งใส ในการคัดเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 คือรายงานการประชุมลับที่โรงแรมหรูในนครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 2010

     โดยภายในที่ประชุมครั้งนั้นประกอบไปด้วย เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ อดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน และ ชุงมองจุน รองประธานฟีฟ่าชาวเกาหลีใต้ในขณะนั้น ซึ่งในที่ประชุมมีรายงานว่า เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ขอให้เกาหลีใต้ช่วยโหวตให้อังกฤษในการเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และสัญญาว่าอังกฤษจะช่วยโหวตให้เกาหลีใต้ในปี 2022

     ซึ่งหากมีการเจรจาต่อรองในรูปแบบนี้จริง ถือว่าผิดกฏ Anti-Collusion Rules รวมถึงยังไม่ผ่านมาตรฐานของ FCE หรือ FIFA Code of Ethics กติกาการเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก

     รายงานฉบับนี้ยังได้แสดงให้เห็นถึงข้อมูลที่ว่า ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ​เตรียมเดินทางมาอุ่นเครื่องที่ประเทศไทย หากได้รับคะแนนโหวตจากนายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นเป็นสมาชิกฟีฟ่า

     เจฟฟ์ ธอมป์สัน อดีตประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และหัวหน้าทีมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ยอมรับว่าในรายงานการสืบสวนระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2010 เพียง 8 วันก่อนการประชุมโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และ 2022 แต่สุดท้ายอังกฤษไม่ได้รับเสียงโหวตจากประเทศไทย

     รวมถึงยังมีรายงานว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลอังกฤษได้ทุ่มงบประมาน 21 ล้านปอนด์ เพื่อให้เจ้าชายวิลเลียม เดวิด เบ็กแฮม และเดวิด คาเมรอน ช่วยกันล็อบบี้ให้อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก แต่ทางเจ้าชายวิลเลียมทรงไม่พอพระทัยเนื่องจากเคยตรัสว่า ทรงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องประจบคนเหล่านี้

 

ทำไมเอกสาร 422 หน้า ถึงเพิ่งปล่อยออกมาตอนนี้

     จันนี อินฟันตีโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติยืนยันว่า เขาต้องการปล่อยเอกสารฉบับเต็มนี้มาตลอด แต่ คอร์เนล บอร์เบลี อดีตแต่หัวหน้าฝ่ายจริยธรรมคนก่อนปฏิเสธไม่ให้มีการเผยแพร่

     ด้าน ฮานส์ โยอาคิม เอ็คเกิร์ต หัวหน้าฝ่ายจริยธรรมคนต่อจากบอร์เบลี ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2014 เผยว่า หากมีการเปิดเผยเอกสารฉบับนี้จะทำให้ฟีฟ่า และคณะกรรมการจริยธรรมตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จนถึงวันนี้อินฟันตีโนก็ยังไม่เคยติดต่อพวกเขาให้เปิดเผยเอกสารฉบับนั้นเลย

     จนสุดท้ายเอกสารฉบับนี้ก็หลุดไปอยู่ในมือของสื่อมวลชนในเยอรมัน และฟีฟ่าก็ตัดสินใจเผยเอกสารฉบับเต็มในที่สุด

 

Photo: FABRICE COFFRINI/AFP

 

ความไม่โปร่งใสของฟีฟ่ายุคเซพพ์ บลัตเทอร์

     ถึงแม้ว่าอังกฤษจะไม่ได้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 โดยผลของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพนั้นดับลงตั้งแต่รอบแรก โดยได้รับผลโหวตเพียง 2 เสียงเท่านั้น ทำให้รัสเซียซึ่งได้คะแนนโหวตมากกว่าเป็นผู้ชนะไป แต่รายงานของการ์เซียทำให้อังกฤษเสียชื่อเสียงอย่างมากในครั้งนี้

     โดยที่ผ่านมามีการสืบสวนสอบสวนการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และ 2022 ตลอดมา เนื่องจากหลายฝ่ายไม่ไว้วางใจระบบการคัดเลือกของฟีฟ่า หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ภายใต้การบริหารของเซพพ์ บลัตเทอร์ โดยเฉพาะการเลือกกาตาร์ ซึ่งในฤดูร้อนอุณภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ทำให้แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการแข่งขันฟุตบอล แต่กลับได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022  

     ข้อกล่าวหาหลักซึ่งนำไปสู่การสอบสวนโดยการ์เซียคือ การที่ โมฮัมหมัด บิน ฮัมมาน เจ้าหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลกาตาร์ (QFA) ได้จ่ายเงินจำนวน 5 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับเจ้าหน้าที่ทางการของสมาคมกีฬาฟุตบอลชาติอื่น เพื่อแลกกับการสนับสนุนกาตาร์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก

     ซึ่งการ์เซียใช้เวลา 2 ปีสอบสวนผู้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพทั้งหมด 9 ชาติ ซึ่งรัสเซียชนะการคัดเลือกในปี 2018 โดยชนะอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกับเบลเยียมและสเปน ซึ่งเสนอเป็นเจ้าภาพร่วมกับโปรตุเกส

     ขณะที่ในเดือนธันวาคมปี 2010 กาตาร์ก็ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ โดยชนะออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา

 

ความโลภของฟีฟ่า

     จากบทวิเคราะห์ของ แดน โรอัน บรรณาธิการข่าวกีฬาของ BBC มองว่า การเปิดเผยเอกสารการ์เซีย รีพอร์ต ซึ่งไมเคิล การ์เซีย เคยเปิดเผยฉบับย่อ 42 หน้ามาแล้วในปี 2014 ในครั้งแรกการรายงานเพียง 42 หน้าอาจจะทำให้ไม่ต้องจัดการเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 และ 2022 กันใหม่ เนื่องจากเนื้อหาในนั้นแสดงให้เห็นว่าการจัดเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งนั้นโปร่งใส

     แต่ในครั้งนี้ฟีฟ่าถูกบังคับให้ต้องเปิดเผยเอกสารฉบับ 422 หน้า เนื่องจากบิลด์ สื่อของเยอรมนีได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ฟีฟ่าจำเป็นต้องรีบเปิดเผยเอกสารฉบับเต็ม

     ซึ่งข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ความพยายามของแต่ละชาติในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกโดยเฉพาะอังกฤษ มีมากกว่าขอบเขตที่ FCE ได้กำหนดไว้

     และเป็นการแสดงให้เห็นความจริงว่า วัฒนธรรมของความโลภเป็นที่ยอมรับ และกำลังกัดกินภายในองค์กรของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า

 

Cover Photo: Anthony Devlin/POOL/AFP

อ้างอิง:

 

 

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising